โจรเหิมซิ่งชอปเปอร์ยิงสายตรวจปางตาย

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 30 พ.ค. ร.ต.อ.อภิวัฒน์ พันเลิศขจร พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช
 
รับแจ้งเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณถนนหมู่บ้านจุฬาภรณ์ 1 หมู่ 9 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจ และฝ่ายสืบสวนจำนวนหลายนาย

ที่เกิดเหตุพบร่างของ ส.ต.อ.พิพัฒพงศ์ หลอมทอง อายุ 41 ปี เจ้าหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์ สภ.ทุ่งใหญ่
 
สภาพนอนจมกองเลือดอยู่ในคูน้ำข้างทาง โดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด 9 มม. เข้าที่ศีรษะด้านซ้ายทะลุขวา 1 นัด อาการสาหัส จึงรีบนำตัวส่ง รพ.มหาราช ใกล้กันพบรถ จยย.สายตรวจ ยี่ห้อคาวาซากิ สีเลือดหมู ทะเบียนตราโล่ 41624 จอดอยู่ ส่วนที่พงหญ้าข้างถนน พบรถ จยย.ชอปเปอร์ ยี่ห้อเจอาร์ดี  สีดำ ป้ายทะเบียน กษ  982  ภูเก็ต ของคนร้ายล้มคว่ำอยู่ นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.ตกอยู่ 2 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน ส.ต.อ.จารนัย พันธกิจ เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.ทุ่งใหญ่ ที่อยู่ในเหตุการณ์ ทราบว่า
 
ก่อนเกิดเหตุ ได้ร่วมกับ ส.ต.อ.พิพัฒพงศ์ คนเจ็บ ออกตรวจพื้นที่เพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรม เมื่อมาถึงบริเวณสามแยกลำทับ ได้พบรถ จยย.ต้องสงสัย โดยมีชายจำนวน 2 คน แต่งกายด้วยชุดแจ๊กเกตดำ กางเกงยีน สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ขับขี่และซ้อนท้ายผ่านมา จึงได้เรียกเพื่อขอตรวจค้น แต่รถ จยย.คันดังกล่าวได้ขับหลบหนีไปตามถนนหมู่บ้านจุฬาภรณ์ 1 จึงได้ไล่ติดตาม

กระทั่งถึงจุดเกิดเหตุ รถ จยย.ของคนร้ายได้เสียหลักล้มลง ส.ต.อ.พิพัฒพงศ์ จึงตามเข้าไปล็อกคอเพื่อจับกุม
 
แต่คนร้ายอีกคนที่มาด้วยกันได้ชักอาวุธปืนยงเข้าที่ศีรษะของ ส.ต.อ.พิพัฒพงศ์ ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ก่อนที่จะพากันหลบหนีเข้าไปในป่าด้านหลังหมู่บ้านจุฬาภรณ์ 1 ส.ต.อ.จารนัย พยายามไล่ติดตามคนร้ายไปแต่ก็คลาดกัน เนื่องจากป่าดังกล่าวมีอาณาบริเวณกว้างกว่า 100 ไร่

จึงได้ประสานขอกำลังสนับสนุน ซึ่งต่อมา ทาง พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช

ได้เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุพร้อมกับนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ต่าง ๆ ใน จ.นครศรีธรรมราช กว่า 200 นาย กระจายกำลังปิดล้อมจับกุมคนร้ายแต่ก็ยังไม่พบ ทั้งนี้ทางตำรวจคาดว่าคนร้ายรายนี้น่าจะมีคดีร้ายแรงติดตัว ถึงได้ยิงเจ้าหน้าที่เพื่อหลบหนี อย่างไรก็ดีทางเจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อมกดดันเพื่อจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ต่อไป.