รวบต่างชาติมอมยาแบล็กเมล์เรียก2ล้าน

รวบต่างชาติมอมยาแบล็กเมล์เรียก2ล้าน

เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (24 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)

พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น. แถลงจับกุมนายบราฮิม จาลูลี หรือแดเนียล อายุ 36 ปี สัญชาติไนจีเรีย ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุจับหญิงสาวเรียกค่าไถ่ พร้อมของกลางยานอนหลับ สก๊อตเทป และเชือกจับได้ที่หน้าห้อง 833  ชั้น 8 โรงแรมโรแมนซ์อินน์ ซอยสุขุมวิท 97 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.
 

พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 พ.ค.  ผู้ต้องหาได้พานางกฤติยา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี อาชีพทำธุรกิจทัวร์และขายอาหารเสริม
 
ขึ้นรถเก๋งวอลโว่ เอส 60  ทะเบียน  กรุงเทพมหานคร ออกไปจากบ้านพักย่านประเวศ และเช่าโรงแรมโรแมนซ์อินน์ ซอยสุขุมวิท 97 ก่อนจะแอบผสมยานอนหลับให้กินครั้งละ 3 เม็ด รวม 4 ครั้ง จนผู้เสียหายสะลึมสะลือ จากนั้นวันที่ 23 พ.ค.เวลา 20.49 น. ผู้ต้องหาได้ส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือ เป็นรูปเปลือยของผู้เสียหาย ไปในโทรศัพท์มือถือลูกชายผู้เสียหายที่ประเทศอังกฤษ เพื่อให้ส่งเงิน 2 ล้านบาท มาให้แลกกับการปล่อยตัวมารดา


พล.ต.ท.วินัย กล่าวอีกว่า ผู้เสียหายรู้จักกับนายแดเนียลทางอินเทอร์เน็ต จากนั้นนายแดเนียลได้เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย เพื่อมาพบผู้เสียหาย
 
โดยเดินทางมาได้ประมาณ 9 วันและก่อเหตุจับตัวผู้เสียหายไปเรียกค่าไถ่ จากนั้นลูกชายผู้เสียหาย ได้โทรศัพท์ประสานน้าชาย ให้แจ้งความกับตำรวจ ต่อมาจึงมีการแจ้งความที่ สน.พระโขนง ทางตำรวจจึงตรวจสอบหาแหล่งที่มาก่อนติดตามจับกุมได้  โดยตรวจดูภาพจากอีเมล์ที่ผู้ต้องหาส่งให้ลูกชายผู้เสียหาย พบว่าสามารถจดจำห้องพักได้ เพราะเคยไปนอนพักมาก่อน จึงให้ฝ่ายสืบสวนขับขี่รถจยย.ไปตรวจสอบก็พบรถวอลโว่ของผู้เสียหายจอดอยู่ จึงตรวจเช็ก และขึ้นไปควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ด้านหน้าห้องพักดังกล่าว


ด้านนายแดนนี่รับสารภาพว่า รู้จักกันมา 3-4 เดือน ผ่านทางอินเทอร์เน็ต

จากนั้นได้ติดต่อกันผ่านโปรแกรมสไกป์มาตลอด กระทั่งต่อมาได้เดินทางมาที่ประเทศไทย จึงวางแผนจะเรียกค่าตัว เพราะต้องการทรัพย์สินจึงให้กินยานอนหลับและข่มขู่เรียกค่าไถ่ไป 2 ล้านบาท เพราะต้องการเงินเนื่องจากมีภรรยาเป็นชาวมาเลเซียและมีลูก 2 คน  ตอนนี้รู้สึกเสียใจที่ทำลงไปเพราะนางกฤติยา เป็นคนดีมาก แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจทำร้าย


สำหรับนางกฤติยา นอกจากทำธุรกิจทัวร์และขายอาหารเสริม ยังเป็นอาจารย์สอนวิปัสสนาอีกด้วย
 
โดยภายหลังจากถูกมอมยา คนร้ายยังกลับไปที่บ้านพักผู้เสียหาย และทุบเซฟภายในบ้านและได้ทรัพย์สินจำนวนหนึ่ง ขณะผู้เสียหายพักอยู่บ้านคนเดียว ได้หย่ากับสามี ทำให้ไม่มีใครรู้  แต่ขณะนี้นางกฤติยายังไม่สามารถบอกได้ว่าทรัพย์สินที่มีในเซฟมีเท่าใด เพราะยังไม่สามารถให้การได้ เชื่อว่าบางส่วนคนร้ายจะนำไปขายบ้างแล้ว ตำรวจจะสอบสวนขยายผลต่อไป เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้สูญเสียอิสรภาพ และเรียกค่าไถ่  นำส่งพงส.สน.พระโขนง ดำเนินคดี.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์