ไฟฟ้าลัดวงจรเผากุฏิวัดในอุดรฯ วอด 2 หลัง

อุดรธานี - เกิดเหตุเพลิงไหม้วัดในอ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เผาผลาญกุฏิวอดไป 2 หลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร หลังจากพบว่าเณรในวัดเสียบปลั๊กวิทยุทิ้งไว้บนหมอน

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 29 มกราคม พ.ต.ท.วัฒนา มีทองหลาง สารวัตรเวร สภ.อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี รับแจ้งเดินทางออกไปสอบสวนเหตุ เพลิงไหม้ที่วัดโพธิ์ศรี ม.1 ต.บ้านจันทน์ อ.บ้านดุง พบเพลิงลุกไหม้กุฏิ 2 หลัง หลังแรกเป็นกุฏิครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น หลังที่สองเป็นกุฏิไม้ชั้นเดียว ชาวบ้านได้ช่วยกันดับไฟ และมีรถดับเพลิงเทศบาลตำบลศรีสุทโธ และ อบต.บ้านจันทร์ นำรถมาฉีดน้ำสกัดไม่ให้ลุกลาม ไปยังกุฏิหลังที่สามได้ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงที่ลุกไหม้จึงสงบ เผาผลาญกุฏิไป 2 หลัง และหลังที่ 3 ถูกไหม้ไปเล็กน้อย

สอบสวนทราบว่า ห้องต้นเพลิงบนชั้น 2 เป็นของสามเณรอนุชา สารการ อายุ 13 ปี ขณะเกิดเหตุพระเณรในวัด รวมทั้งพระครูสุวรรณ ธรรมชาติ เจ้าอาวาส และเจ้าคณะตำบล กลับจากบิณฑบาตมาถึงวัด และประกอบกิจของสงฆ์ตามปกติ จนกระทั่งขณะกำลังจะฉันภัตตาหารเช้า ก็ได้ยินเสียงแตกของไม้ถูกไฟไหม้ จึงให้ญาติโยมลุกขึ้นเปิดหน้าต่างดูก็พบว่าเพลิงได้ลุกไหม้กุฏิหลักแรก ลุกลามไปเกือบท่วมทั้งหมดจึงวิ่งลงมาจากศาลา เพื่อช่วยกันดับเพลิง และวิทยุแจ้งดับเพลิงมาช่วย

ซึ่งเวลาต่อมา พล.ต.ต.ยุทธนา ปาละนิติเสนา ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เดินทางมาดูที่เกิดเหตุและสอบสวนด้วยตนเอง พร้อมเปิดเผยว่า จากการตรวจสถานที่เกิดเหตุเบื้องต้น และจากปากคำของพยานพบว่า สาเหตุน่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร ไม่ใช่การวางเพลิง

เพราะเณรที่พักอยู่ที่กุฏิหลังต้นเพลิงได้วางวิทยุไว้บนหมอน พร้อมทั้งเสียบปลั๊กทิ้งไว้ ก่อนที่จะลงมาฉันอาหาร และเนื่องจากสภาพเต้าปลั๊กไฟที่เก่าจึงน่าจะเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ดี ต้องรอผลตรวจจากทางวิทยาการตำรวจเสียก่อนจึงจะสรุปสาเหตุข้อเท็จจริงว่าเป้นอย่างไร

ด้านข้อสันนิษฐานที่ว่าจะเป็นการวางเพลิง หรือเป็นฝีมือของกลุ่มคลื่นใต้น้ำหรือไม่นั้น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้กล่าวถึงเรืองนี้ว่า ไม่น่าจะเป็นกลุ่มคลื่นใต้น้ำ เพราะมีการตรวจสอบติดตามอยู่ตลอดเวลา และตนได้กำชับกำลังเจ้าหน้าที่ให้ดูแลความปลอดภัยของสถานที่สำคัญทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นวัด หรือโรงเรียนตลอด 24 ชั่วโมง และที่สำคัญคือไม่มีคลื่นใต้น้ำในพื้นที่อย่างแน่นอน