รวบแก๊งโจรเฟซบุ๊กใช้รูปสาวแอ๊บแบ๊วล่อหนุ่มๆ-นัดเจอแล้วปล้น

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3

ร่วมกับ พล.ต.ต.กรกต สาริยา รอง ผบช.ภ.3, พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รองผบก.นครราชสีมา พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ รองผบก. พ.ต.อ.สนธยา แต่แดงเพชร ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีปล้นทรัพย์ ได้ผู้ต้องหา 5 ราย ประกอบด้วย นายเกษม รักกลาง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 434 หมู่ที่ 10 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา น.ส.จันทิมา ชูประเทศ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ที่ 10 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา และเยาวชนชายอายุระหว่าง 14-16 ปี อีก 3 คน พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน

 ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พ.ค. สภ.เมืองนครราชสีมารับแจ้งความร้องทุกข์จากนายธีระยุทธ ยุทธกลาง อายุ 19 ปี

ว่าถูกหญิงสาวสวยที่รู้จักกันผ่านทางโลกออนไลน์เฟซบุ๊ก ใช้ชื่อติดต่อพูดคุยกันคือ "พี่เตย คิ้วเข้ม" ซึ่งได้ติดต่อพูดคุยกันมาระยะหนึ่ง จนกระทั่งนัดหมายให้ตนขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เอส 90 สีเขียว ซึ่งเป็นรถโบราณแต่งสวย ไปพบที่บริเวณหน้าวัดศรัทธาราม ใกล้โรงเรียนบุญวัฒนา 1 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อไปถึงที่นัดพบก็มีกลุ่มคนร้ายจำนวน 6 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจำนวน 3 คัน มาจอดขวางหน้ารถพร้อมกับขู่ทำร้าย โดยอ้างว่ามีปืน ขู่ว่าจะให้ฆ่าทิ้ง หรือจะให้เอารถจักรยานยนต์ไป ตนจึงตัดสินใจให้คนร้ายเอารถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไป จากนั้นจึงมาแจ้งความร้องทุกข์

 ต่อมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้แฝงตัวเป็นนักท่องโลกออนไลน์ เข้าไปสมัครเป็นเพื่อนกับผู้ต้องหา ตามที่ได้รับแจ้งความจากนายธีระยุทธ
 
จนสืบทราบว่ารถจักรยานยนต์ที่คนร้ายปล้นมานั้น นำไปทำสีอยู่ที่อู่ซ่อมรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่ง ในบ้านหนองสองห้อง ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงเข้าตรวจสอบ ทราบว่าผู้ที่เอามาซ่อมคือนายเกษม จากนั้นจึงเข้ากับกุมนายเกษมได้ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่ภายในบ้านหนองสองห้อง ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา และยังขยายผลจับกุมผู้ที่ร่วมขบวนการได้อีก 4 คนดังกล่าว  

 จากการสอบสวน นายเกษมให้การรับสารภาพว่า ตนนำรูปแฟนสาวมาเปิดเฟซบุ๊กใช้ชื่อ "พี่เตย คิ้วเข้ม"

เพื่อให้หนุ่มๆ หลงกลอุบายว่าเป็นหญิงสาวที่ต้องการรู้จัก และเมื่อเหยื่อขอเป็นเพื่อน ก็จะชวนพูดคุยกันระยะหนึ่งจนตายใจ ก่อนที่จะนัดเจอกันเพื่อปล้นทรัพย์ ซึ่งตนยอมรับว่าทำมาแล้วหลายครั้ง แต่ทุกครั้งจะเอาแต่เพียงทรัพย์สินที่ติดตัวมา แต่ครั้งนี้ที่ปล้นเอารถจักรายานยนต์ เนื่องจากชอบรถจักรยานยนต์โบราณ จึงวางแผนนัดเจอเหยื่อแล้วลงมือปล้นดังกล่าว 

 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ดำเนินคดีข้อหา ปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม