ภาพลักษณ์เมืองพัทยาสถานที่ท่องเที่ยวชื่อก้องโลกของไทยต้องเสียหายอีกครั้ง หลังเกิดเหตุนักธุรกิจชาวบังกลาเทศถูกหญิงชาวไทยมอมยาจนเสียชีวิต โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ห้องพักเลขที่ 427 โรงแรมแห่งหนึ่งกลางใจเมืองพัทยา
โดยก่อนเกิดเหตุ นายซันจิบ ซาฮา นายราชิด ฮารูนัวร์ และนายบิสิเนส ชาน นักธุรกิจชาวบังกลาเทศ เสร็จสิ้นจากการประชุมใหญ่สโมสรโรตารี่สากล ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร จึงเดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองพัทยา
ระหว่างนักธุรกิจชาวบังกลาเทศทั้ง 3 คน กำลังเดินอยู่ที่ริมชายหาดพัทยา น.ส.มาลี จินดาวงษ์ อายุ 37 ปี ชาว จ.พิจิตร ซึ่งเดินทางมาทำงานที่เมืองพัทยา ได้เข้ามาตีสนิทก่อนจะชักชวนไปร่วมหลับนอนภายในโรงแรมที่เกิดเหตุ
หลังจากทั้ง 4 คน เข้าไปในห้องพัก น.ส.มาลี แอบนำยาซาแน็กซ์จำนวน 10 เม็ด เทลงในกระป๋องเบียร์ส่งให้นักธุรกิจชาวบังกลาเทศทั้ง 3 คนดื่ม และหลังจากนั้นเพียง 10 นาที ชาวบังกลาเทศทั้ง 3 คนก็มีอาการหน้ามืดและหมดสติ
เตือนรูดทรัพย์!ซาแน็กซ์ผสมเบียร์ตาย
น.ส.มาลี ฉวยโอกาสรื้อค้นทรัพย์สินภายในห้องพัก ได้โทรศัพท์มือถือไป 2 เครื่อง กล้องถ่ายรูป 1 ตัว คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง และเงินสดสกุลรูปีอีก 1,500 รูปี หลังจากนั้นจึงหลบหนีออกจากโรงแรมที่เกิดเหตุ
กระทั่งต่อมาพนักงานทำความสะอาดของโรงแรมสังเกตเห็นคราบอาเจียนและมีกลิ่นเหม็นคาวของเศษอาหารหลุดลอดออกมาจากห้องพักที่เกิดเหตุอย่างผิดสังเกต จึงได้เคาะประตูเรียกแต่ไม่มีใครเปิดประตู พนักงานทำความสะอาดจึงได้ประสานพนักงานรักษาความปลอดภัยให้นำกุญแจสำรองมาเปิดห้อง พบนักธุรกิจชาวบังกลาเทศทั้ง 3 คน นอนน้ำลายฟูมปาก มีคราบอาเจียนเปรอะเปื้อนตัวจึงรีบนำส่งโรงพยาบาล ปรากฏว่า นายบิสิเนส ชาน เสียชีวิตแล้ว ขณะที่นายซันจิบ ซาฮา และ นายราชิด ฮารูนัวร์ มีอาการสาหัส
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ธรรมนูญ มั่นคง ผกก.สภ.เมืองพัทยา สั่งการให้ พ.ต.ท.ศุภชัย ผุยแก้วคำ รอง ผกก.สส.สภ.พัทยา
พร้อมกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวน สภ.พัทยา เร่งติดตามหาตัว น.ส.มาลี กระทั่งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม หลังเกิดเหตุเพียง 2 วัน ตำรวจสืบทราบว่าหญิงสาวรายนี้ได้หลบหนีไปพักอยู่ในห้องพักหมายเลข 3 ชั้น 2 อาคารตุ๋ยอพาร์ตเมนต์ ซอยบงกช ย่านพัทยาใต้ จึงเดินทางไปจับกุม
น.ส.มาลีให้การว่า ขณะเดินเที่ยวอยู่บริเวณชายหาดพัทยา
พบ นายบิสิเนส ชาน จึงชักชวนไปหลับนอนภายในโรงแรมที่เกิดเหตุ แต่เมื่อเข้าไปในห้องพักกลับพบ นายซันจิบ ซาฮา และ นายราชิด ฮารูนัวร์ รออยู่ภายในห้องแล้ว หลังจากนั้นทั้ง 3 คนได้ขอร่วมหลับนอนแบบสวิงกิ้งและได้ลงมือลวนลามทันที
"ทันทีที่เข้าไปในห้องพวกเขาได้ลวนลามกอดรัดฟัดเหวี่ยง และขอร่วมหลับนอนแบบ 3 ต่อ 1 ฉันจึงออกอุบายขอดื่มเบียร์ก่อน เมื่อได้โอกาสจึงนำยาซาแน็กซ์เม็ดสีม่วงอ่อนจำนวน 10 เม็ด ใส่ลงไปในกระป๋องเบียร์ส่งให้ชาวบังกลาเทศทั้ง 3 คนดื่ม สักพักทั้ง 3 คน มีอาการสะลึมสะลือและอาเจียนก่อนจะหมดสติไป หลังจากนั้นจึงรื้อค้นเอาทรัพย์สินแล้วหนีออกจากโรงแรม โดยไม่คิดว่าผู้เสียหายจะเสียชีวิต" น.ส.มาลีเล่าย้อนเหตุการณ์
ด้าน พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.2 บอกว่า จากการตรวจสอบประวัติของ น.ส.มาลี พบว่า
เคยก่อคดีมอมยารูดทรัพย์ชาวต่างชาติมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2549 เหตุเกิดที่โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งย่านหาดจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยในครั้งนั้นผู้เสียหายเป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติอิหร่านจำนวน 2 คน ซึ่งตำรวจจะแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับ น.ส.มาลี สถานหนักเพราะการกระทำที่เกิดขึ้นส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเมืองพัทยาอย่างร้ายแรง
ขณะที่นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ได้มอบเงินจำนวน 1 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณกว่า 3 แสนบาท ให้แก่ญาติชาวบังกลาเทศที่เสียชีวิต ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 คน จะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด และหลังจากนี้จะขอความร่วมมือจากประชาชนในเมืองพัทยาให้ช่วยกันดูแลนักท่องเที่ยวให้ได้รับความปลอดภัยทั้งในชีวิตและทรัพย์สินตลอดระยะเวลาที่ท่องเที่ยวอยู่ในเมืองพัทยา เพราะหากเกิดเหตุร้ายขึ้นจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศ