กฟน.มอบ 1 แสน ให้ครอบครัวเหยื่อเสาไฟล้มทับ ระบุเหตุสุดวิสัย เจอร่องลมพายุถล่มซ้ำ 2 รอบ เล็งเสริมความแข็งแรงเสาเพิ่ม หวั่นเหตุซ้ำรอย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 55 นายอาทร สินสวัสดิ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กล่าวถึงกรณีเสาไฟฟ้าล้มทับรถยนต์ บนถนนฉลองกรุง และมีผู้เสียชีวิตว่า จากการตรวจสอบสาเหตุ เกิดจากร่องลมพายุพัดผ่านตามแนว ตั้งแต่ถนนคุ้มเกล้าผ่านมาจากตะวันตกวิ่งมาทางตะวันออกและผ่านถนนฉลองกรุง สังเกตได้จากแนวที่เจอ นอกจากถนนฉลองกรุงยังมีถนนคุ้มเกล้าที่เสาล้ม เป็นร่องลมตรงนั้น เพราะที่คุ้มเกล้าเสาล้ม 26 ต้น ที่ฉลองกรุง เสาใหญ่ล้ม 7 ต้น และเสาเล็ก อีก 8 ต้น ซึ่งสาเหตุเข้าใจว่า มาจากร่องลมพายุฤดูร้อนที่พัดผ่านมา โดยดูจากแผนที่เป็นแนวตรงกันทุกประการ
นายอาทร กล่าวต่อว่า ปกติแล้วเสาที่ออกแบบทนแรงได้อย่างน้อย 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงความเร็วลม
ซึ่งเป็นความเร็วลมปกติ ไม่ใช่ลมพายุ ในแง่ของลมพายุที่กระโชกมาขนาดนี้ จริง ๆ แล้วได้แค่เอียง แต่ถ้าซ้ำลงมาอีก จะเกิดเหตุการณ์เสาล้มได้ ซึ่งเรื่องภัยธรรมชาติอาจพยากรณ์ได้ยาก แต่พายุปกติไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เสาไฟฟ้ามีความแข็งแรงรับได้เพราะออกแบบไว้ ซึ่ง 10 ปีก่อนเคยเกิดที่ร่องลม แถวซอยวัดศรีวารีน้อย ล้มไป 70 ต้น เป็นมรสุมหมุน ลมหมุน ล้มทีเดียว 70 ต้นมาแล้ว
นายอาทร กล่าวด้วยว่า ลมพายุที่เกิดเหตุการณ์ อย่างเมื่อวานซึ่งแรงมาก แล้วก็เกิดซ้ำ 2 เที่ยวเป็นเหตุสุดวิสัย ที่อาจจะไม่ได้เกิดบ่อยนัก
ซึ่งความแข็งแรงของเสานั้นในการพิจารณาครั้งต่อไปบริเวณนอกเมือง คงต้องเพิ่มความแข็งแรงมากขึ้นไปอีก เพื่อหาแนวทางป้องกัน อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือ กฟน.จะส่งผู้ช่วยฯกฟน.และระดับผู้บริหารไปคำนับผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 1 แสนบาท พร้อมจะคุยกับครอบครัวอีกครั้งเพื่อการช่วยเหลือต่อไป