ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชุ่ยแอบทิ้งขยะอื้อ!

15 พ.ค.55 นายสุมาท ทองใบ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/5 ม.3 ต.หนองบัว อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยชาวบ้านผู้ประกอบอาชีพเลี้ยงกุ้งเลี้ยงปลา และทำนา ได้ร้องทุกข์ผ่านทางสื่อไปถึงยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าทำการตรวจสอบ และช่วยเหลือแก้ไขปัญหาภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ต่ออาชีพดั้งเดิมของชาวบ้านในท้องถิ่น ที่กำลังจะเกิดขึ้นและทำลายความสงบสุขในการทำมาหากินของชาวบ้านต่อไปในอนาคตว่า

ขณะนี้ได้มีกลุ่มทุนบางกลุ่มได้เข้ามากว้านซื้อที่ดินของชาวบ้านที่หลุดจากการจำนองจากนายทุนเงินกู้หนี้นอกระบบในพื้นที่

ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่น เพื่อใช้เป็นพื้นที่ทิ้งขยะจากภาคอุตสาหกรรม ที่กำลังเติบโตอย่างรุนแรงในพื้นที่ หลังจากเกิดน้ำท่วมใหญ่ในภาคกลางจนทำให้มีโรงงานอุตสาหกรรมอพยพเข้ามาปลูกสร้างใหม่เป็นจำนวนมาก โดยที่ผ่านมาตลอดเวลาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว นายทุนกลุ่มดังกล่าวนี้ได้เริ่มนำขยะจากภาคอุตสาหกรรมเข้ามาทิ้งในพื้นที่ จนเริ่มทำให้เกิดปัญหาต่อการประกอบอาชีพในภาคเกษตรของชาวบ้าน

                    
เนื่องจากน้ำในหลอด ลำคลองสาธารณะที่ชาวบ้านได้เคยใช้ในการประกอบอาชีพทางภาคเกษตรกรรมนั้นได้เริ่มเปลี่ยนไป

จากน้ำที่เคยมีสีใสๆ กายเป็นน้ำเสียที่มีสีดำขุ่นข้น และส่งกลิ่นเหม็นเน่า เนื่องจากขยะที่ถูกน้ำมาทิ้งนั้น เป็นขยะที่เหลือจากกระบวนการผลิตในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มีสารเคมีปนเปื้อนหลายชนิด โดยเฉพาะที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน คือ เศษขยะจากโรงงานผู้ผลิตเบาะรถยนต์ ที่มีขยะที่ไม่สามารถย่อยสลายได้โดยง่ายเป็นจำนวนมากถูกนำมาทิ้ง

                    
ทั้งเศษฟองน้ำ เศษหนังเทียม เศษโฟม ถุงพลาสสติกปนเปื้อนเคมี กาวยาง ทินเนอร์ รวมทั้งเมล็ดพลาสติก
 
เมื่อสารเคมีเหล่านี้รั่วซึมออกจากพื้นที่ ลงไปสู่สำคลองสาธารณะที่เคยใช้ร่วมกันจึงทำให้เกิดการเน่าเสียของน้ำ และที่สำคัญที่ผ่านมายังมีการสูบน้ำทิ้งออกจากบ่อขยะหลังฝนตกลงสู่หลอดลำคลองสาธารณะอีกด้วยจึงทำให้ชาวบ้านไม่สามารถใช้น้ำในการทำการเกษตรได้ทั้งการเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลา และทำนา ซึ่งถือเป็นอาชีพหลักของชาวบ้านที่ทำกินกันมาอย่างยาวนานหลายสิบปีนั้น ไม่สามารถทำได้อีกต่อไป เพราะไม่มีน้ำซึ่งเป็นปัจจัยหลักเนื่องจากในพื้นที่มีลำคลองเชื่อมต่อถึงกันหมดที่เกิดการเน่าเสีย

                    
"ขณะเดียวกันพื้นที่ในบริเวณนี้ และอีกหลายแห่งใน จ.ฉะเชิงเทรา นั้นเคยเป็นแหล่งผลิตกุ้งส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ หรือเคยถูกเรียกขนานนามจากทางราชการหลายภาคส่วนว่าเป็นแหล่งผลิตอาหารของโลก หรือ "ครัวโลก" อีกด้วย จึงอยากวอนขอร้องให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาทำการตรวจสอบ และช่วยแก้ไขปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นให้แก่ชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ด้วย" นายสุมาท กล่าว