วันนี้ ( 15 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าคดี คนร้ายปล้นรถขนเงินของธนาคารกสิกรไทย เหตุเกิดที่ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่าพล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.ได้สั่งการไปยัง พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผบช.ภ.6 ให้สั่งการให้ พ.ต.อ.พิจิตร กรมประสิทธิ์ ผกก.สภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร และส.ต.อ.นารายณ์ ทิพย์ปรีชาธร ผบ.หมู่งานสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นครสวรรค์ ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว ออกจากราชการไว้ก่อน โดยให้มีผลทันที ขณะเดียวกันได้ตั้ง คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยมี พ.ต.อ.ประวิทย์ เจียมตระกูล รองผบก.ภ.จ.กำแพงเพชร เป็นประธาน พร้อมให้ พล.ต.ต.ศิรินทร์ ผดุงชีวิตร์ รอง ผบช.ภ.6 ลงไปกำกับดูแลการสืบสวนอย่างเคร่งครัด
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า คดีนี้มีพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคลและทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยมีภาพถ่ายของ พ.ต.อ.พิจิตร ซึ่งขณะนั้นยังดำรงตำแหน่ง รองผกก.ปป.สภ.ขาณุวรลักษณ์บุรี จ.กำแพงเพชร ปรากฏอยู่บริเวณใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ ซึ่ง ส.ต.อ.ณารายณ์ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้แล้ว ส่วน พ.ต.อ.พิจิตร ทราบว่ากำลังจะเข้ามอบตัวกับ ผบก.ภ.จว.สิงห์บุรี
“คดีนี้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้ความสำคัญ ซึ่งหากพบตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะไม่ปล่อยไว้ ตัดเนื้อร้ายทิ้งไป แต่ตำรวจทั้ง 2 แสนคน ไม่ได้หมายความว่าผิดทั้งหมด อาจมีบ้างที่มีบางคนจะทำผิดได้ โดยคดีนี้ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร. ติดตามมาตลอด มีหลักฐานชัดเจน ขณะเดียวกันเมื่อทำการสืบสวนข้อเท็จจริงหากพบมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องอีกก็จะต้องถูกดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาด”โฆษกตร.กล่าว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวด้วยว่า นอกจากการดำเนินการทางวินัยและทางอาญากับตำรวจทั้ง 2 นาย แล้ว พล.ต.อ.ปานศิริ ได้สั่งการให้มีการดำเนินการเอาผิดกับผู้บังคับบัญชาของนายตำรวจทั้ง 2 นาย ขึ้นมา 2 ระดับชั้น ตามคำสั่งตร.ที่1212/2537 อีกด้วย.