ตาก - โรงเรียนพูลหลวงวิทยา เมืองตากที่ถูกเพลิงไหม้เปิดเรียนตามปกติ โดยใช้พื้นที่บริเวณหน้าโบสถ์ของวัดเป็นสถานที่เรียนหนังสือชั่วคราว ครูใหญ่วอนผู้ใหญ่อย่าซ้ำเติมเด็กนักเรียน
ร.ร.พูลหลวง-ตาก เหยื่อเพลิงเปิดตามปกติ - เรียนหน้าโบสถ์
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ตาก
เมื่อเช้าวันนี้ (29 ม.ค.) ว่า โรงเรียนพูลหลวงวิทยา ต.หนองหลวง อ.เมือง จ.ตาก ได้เปิดเรียนตามปกติไม่ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยคณะครูและนักเรียนกว่า 530 คนยังมาโรงเรียนโดยไม่มีการขาดลา
ส่วนอาคารที่ถูกไฟไหม้ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งปิด เพื่อตรวจสอบหาหลักฐาน เหตุเพลิงไหม้เพิ่มเติม ซึ่งยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่เกิดขึ้นได้ว่าเกิดจากอะไร โดยมีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ครู ภารโรง ไปเฝ้าสถานที่เกิดเหตุตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไปในที่เกิดเหตุ ส่วนนักเรียนชั้นประถมศึกษาได้อาศัยพื้นที่บริเวณหน้าโบสถ์เป็นที่เรียนชั่วคราว
นอกจากนี้ นักเรียนทั้งหมดร่วมกับครูได้ทำพิธีไหว้พระสวดมนต์ และนั่งสมาธิแผ่เมตตา ซึ่งเป็นกิจกรรมปกติยามเช้าหน้าเสาธง เพื่อเป็นการภาวนาจิตตามหลักของโรงเรียนในอุปถัมภ์ของพระพุทธศาสนา และเป็นการขอพรเพื่อปัดเป่าเพสภัยที่เข้ามากล้ำกลายโรงเรียนอีกด้วย
ด้าน นายศิวชาติ ศิริเลิศ ครูใหญ่โรงเรียนพลูหลวงวิทยา กล่าวว่า
วันนี้ยังคงดำเนินการเรียนการสอนตามปกติ เพราะเหตุการณ์ไฟไหม้โต๊ะทำงานของครูนั้นไม่ใช่การสร้างสถานการณ์หรือการลอบวางเพลิงใดๆ ทั้งสิ้น แต่หากจะดูตามเหตุการณ์การแล้วจะเกิดจากความประมาทหรืออุบัติเหตุมีคนจุดเทียนหรือทิ้งบุหรี่ไว้บนโต๊ะก็เป็นได้ ซึ่งในส่วนนี้จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่วิทยาการเข้ามาตรวจสอบ
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีผลกระทบต่อครู นักเรียน แต่อย่างใด ต่างเข้าใจถึงเหตุการณ์ทั้งหมดว่าไม่ได้มีความรุนแรง หรือร้ายแรงแต่อย่างใด และต้องยอมรับว่าโรงเรียนพลูหลวงวิทยา เป็นโรงเรียนในอุปถัมภ์ของพระพุทธศาสนา จะ
เรียกว่า โรงเรียนวัดนั้นตั้งอยู่ภายวัดโคกพลู มีถนนตัดผ่านกลางวัด และตัวอาคารที่สร้างเองนั้นก็ตั้งอยู่ริมถนน ไม่มีรั้วรอบขอบชิดประตูหน้าต่างยังไม่ได้ติดตั้ง เพราะอาคารเพิ่งสร้างและสร้างด้วยเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคบางช่วยก็หมดเงินอาคารแห่งนี้ก็เลยสร้างแบบค่อยเป็นคอยไปตามเงินบริจาค บางครั้งมีวัยรุ่นแอบมานั่งเล่นอยู่เป็นประจำ
ส่วนการป้องกันเหตุร้ายนั้นโรงเรียนได้จัดเวรยามอย่างเข้มงวด มีทั้งพระภิกษุ สามเณร และครูเวร ภารโรง หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว เรื่องนี้ต้องขอความเห็นใจจากผู้ใหญ่ของจังหวัดที่จะมาช่วยโรงเรียน อย่ามาซ้ำเติมเลย
ขอขอบคุณ
ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จาก หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ