หม้อแปลงไฟฟ้าชุมชนย่านคลองหลวงระเบิด สะเก็ดไฟหล่นใส่บ้านที่อยู่ใกล้ เกิดไฟลุกไหม้ ก่อนลมกระโชกโหมไฟลุกลามบ้านเรือนติดกันเป็นวงกว้าง วอด 15 หลัง เสียหาย 20 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 13 พ.ค. 55 พ.ต.ท.ฐานันท์ ทิมวัฒน์ รองผกก.ป.สภ.คลองหลวง
ได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่า มีเหตุไฟไหม้บ้านจำนวนหลายหลังคาเรือน ซึ่งขณะนี้ไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยประสานรถดับเพลิงจากหน่วยงานต่าง ๆ มาฉีดน้ำดับไฟด้วย โดยเหตุเกิดภายใน ซอยบุญคุ้ม ม.5 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งหลังจากรับแจ้งเหตุแล้ว จึงได้รีบวิทยุขอรถดับเพลิงจากหน่วยงาน อปท.ในพื้นที่ให้ช่วยไประงับเหตุไฟไหม้ พร้อมกับรายงานให้ พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ สุริยะวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง ทราบ จากนั้นจึงได้เดินทางรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ภาค 1
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบ รถดับเพลิงจากเทศบาลนครรังสิต เทศบาลคลองหลวง อบต.คลองสาม
เทศบาลท่าโขลง เทศบาลลำสามแก้ว รวมประมาณ 30 คัน กำลังระดมฉีดน้ำสกัดกั้นเพลิงที่กำลังลุกไหม้บ้านเรือนประชาชน ซึ่งได้ถูกเพลิงลุกไหม้ไปแล้ว 15 หลังคาเรือน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงได้ในวงจำกัด เบื้องต้นค่าเสียหายประมาณ 20 ล้านบาท
จากการสอบถาม นายสมปอง อายุ 45 ปี วินจยย.รับจ้างหน้าปากซอยที่เกิดเหตุ กล่าวให้ข้อมูลว่า
ก่อนที่จะเกิดเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนนั้น ได้ยินเสียงระเบิดจากหม้อแปลงบนเสาไฟฟ้าเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จากนั้นเห็นมีประกายไฟหล่นกระจายออกจากหม้อแปลงไฟฟ้าเป็นระยะ จนกระทั่งประกายไฟได้กระเด็นตกลงไปยังบ้านเรือนของชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับหม้อแปลงดังกล่าว ซึ่งตอนนั้นยังไม่พบว่ามีไฟไหม้อะไร แต่จู่ ๆ เกิดลมกระโชกแรง ทำให้ไฟที่ลุกไหม้อยู่ในบ้านแค่หลังคาเดียว กลายเป็นลุกลามวงกว้างจนมีบ้านเรือนของชาวบ้านถุกไฟไหม้หลายสิบหลังคาเรือนดังที่เห็น
ด้าน พ.ต.ท.ฐานนันท์ ทิมวัฒน์ รองผกก.ป. กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสอบถามข้อมูลจากชาวบ้านในชุมชนนี้ต่างก็ให้ข้อมูลเป็นเสียงเดียวกันว่า
ต้นเหตุเพลิงไหม้นั้นเกิดจากสะเก็ดไฟที่ร่วงหล่นลงมาของหม้อแปลงบนเสาไฟฟ้าที่ระเบิด ซึ่งก็ได้มีการเรียกรถดับเพลิงเข้ามาดับไฟไหม้แล้ว แต่ว่ารถดับเพลิงที่จะเข้ามาดับไฟไหม้นั้น เข้ามายังที่เกิดเหตุด้วยความยากลำบาก เพราะซอยแคบมาก ประกอบกับในช่วงเวลาที่รถดับเพลิงกำลังจะมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีลมกระโชกแรง จึงทำให้ไฟได้ลุกโหมเป็นวงกว้างจนลุกลามไปยังบ้านเรือนประชาชน ของชาวบ้านจำนวน 15 หลังคาเรือน ค่าเสียหายเบื้องต้นประมาณ 20 ล้านบาท อย่างไรแล้วทางจนท.ตร.จะสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดต่อไป