ตำรวจ ทลายแห่งผลิตซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ รายใหญ่ 7 จุด ได้ของกลางเพียบ พบบัญชีส่วยจ่ายเงินกลุ่มคนมีสีหลักล้านต่อเดือน
วานนี้ (11 พ.ค.) ที่บ้านเลขที่ 5/119 หมู่บ้านกลางเมือง เขตจตุจักร นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , นางกุลณี อิศดิศัย รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ แถลงภายหลังเข้าตรวจค้นและจับกุมแหล่งผลิตและจำหน่ายซีดีเถื่อน 7 จุด ประกอบด้วย หมู่บ้านชัยพฤกษ์ บางบัวทอง , หมู่บ้านพฤกษาทาวน์ ถนนราชพฤกษ์ , บ้านหม้อ , บ้านกลางเมือง , โกดังเก็บสินค้าตรงข้ามพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน และภายในซอยปิ่นประภาคม 2 จุด โดยสามารถยึดของกลางได้จำนวนมากอาทิ เครื่องไรท์ซีดีแบบทาวเวอร์ที่สามารถผลิตได้ครั้งละ 10 แผ่น จำนวน 50 เครื่อง , ซีดีเปล่าและซีดีเถื่อนจำนวนมาก , บัญชีรายชื่อลูกค้า , ใบเสร็จส่งของ รถยนต์ของกลางที่มีใบเสร็จและสินค้าพร้อมส่ง พร้อมทั้งจับกุมผู้ต้องหาได้กว่า 10 รายเป็นชาวพม่า 7 ราย
นายธาริตกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการจับกุมเครือข่ายใหญ่ มีตัวการคือนายพีระ กอสุวรรณสกุล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี โดยดีเอสไอเตรียมออกหมายจับหากยังไม่เข้ามอบตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอร่วมกับตำรวจได้ร่วมสืบสวนและผู้ต้องหารายดังกล่าวมานาน ทั้งการดักฟังโทรศัพท์ และแฝงตัว จนสามารถแกะรอยกลุ่มเป้าหมายได้ 7 จุด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านพักของนายพีระ
นายธาริต ยังกล่าวว่า จากการเข้าตรวจค้นที่หมู่บ้านกลางเมืองสามารถยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบพิเศษที่สามารถผลิตได้ครั้งละ 10 แผ่น โดยผู้ต้องหานิยมปั้มหนังชนโรง เช่นหนังเรื่องอเมริกันพาย ซึ่งพบว่าหนังเรื่องดังกล่าวเพิ่งเข้าฉายเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ส่วนการตรวจค้นบ้านย่านปิ่นประภาคมพบบัญชีรายชื่อลูกค้าและใบเสร็จรับเงิน ที่บ้านหม้อสามารถยึดแผ่นซีดีที่กำลังผลิต กว่า 20,000 แผ่น สำหรับบ้านย่านชัยพฤกษ์ บางบัวทอง พบบัญชชีลูกค้า ซีดีเปล่า 15 ลัง คอมพิวเตอร์ที่มีรายชื่อลูกค้าซึ่งดีเอสไอได้เก็บข้อมูลเพื่อนำไปขยายผลต่อ
นายธาริต กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เครื่องข่ายดังกล่าวใช้วิธีผลิตหนังทุกคืนวันพฤหัสบดีเนื่องจากจะมีหนังใหม่เข้าโรง โดยกลุ่มผู้ต้องหาจะเข้าไปลักลอบถ่ายหนังชนโรงและนำมาผลิตในช่วงกลางคืนโดยนำแผ่นตัวอย่างไปก็อปปี้ที่บ้านย่านถนนราชพฤกษ์หลังจากนั้นจะเดินเครื่องผลิตทั้งวันทั้งคืน ซึ่งหนังหนึ่งเรื่องจะใช้เวลาในการผลิต 5 นาที โดยเบื้องต้นสำหรับผู้ต้องหาชาวพม่าจะดำเนินคดีโทษเบาที่สุดหรืออาจกันไว้เป็นพยาน อย่างไรก็ตามสำหรับการจับกุมครั้งนี้ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายแต่ถือว่าเป็นเครือข่ายใหญ่ที่สุดที่สามารถจับกุมได้
รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากจับกุมกลุ่มคนมีสีโทรศัพท์มาประสานยังพนักงานสอบสวนเพื่อเจรจาต่อรองการจับกุมครั้ง ทั้งนี้จากการตรวจค้นพบว่าบัญชีมีการจ่ายเงินให้กับกลุ่มคนมีสีรายเดือน เป็นจำนวนหลักล้านบาทต่อเดือน