รวบแล้ว!! ไอ้หื่นฉุดสาวลานจอดห้างดัง

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 พ.ค. ที่ สน.บางชัน
 
พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์  รอง ผบช.น.  พ.ต.อ.วีรชัย โพธิปัตชา ผกก.สน.บางชัน พ.ต.ท.เจิดเกษม ศิริโชติ สว.สส.สน.บางชัน และชุดสืบสวนร่วมกันแถลงข่าวจับนายสัมพันธุ์ ศรีคชา อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 ซอยกาญจนาภิเษก 9 แยก 9 แขวงและเขตคันนายาว ตามหมายจับของศาลมีนบุรีที่ 383/2555 ลงวันที่ 8 พ.ค. 2555 พร้อมของกลางอาวุธมีดปลายแหลมจำนวน 1 เล่ม หมวกแก๊ปสีแดงจำนวน 1 ใบรองเท้าแตะสีดำยี่ห้อลีวาย 1 คู่ และเชือกไนล่อนที่ใช้ก่อเหตุจำนวนหนึ่ง โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ท้ายซอยบางขวัญ 19 หมู่ 5 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา

พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากวันที่ 4 พ.ค. เวลาประมาณ 15.00 น.
 
ผู้ต้องหาได้ฉวยโอกาสขณะที่ น.ส.ชญาธร ภูริชญาภัทรธร อายุ  24 ปี ผู้เสียหายได้เดินออกมาจากห้างแฟร์ชั่นไอซ์แลนด์ ถนนรามอินทรา มายังลานจอดรถโดยเมื่อผู้เสียหายกำลังจะเปิดประตูเข้ามานั่งในรถฝั่งคนขับ ผู้ต้องหาได้เข้ามาจากทางด้านหลังแล้วใช้มือปิดปาก และชกบริเวณท้อง พร้อมพยายามฉุดกระชากบังคับให้ผู้เสียหายปีนข้ามไปยังเบาะข้างคนขับ

จากนั้นหยิบเชือกมาผูกข้อมือเหยื่อพร้อมขู่ว่า “ให้อยู่นิ่ง ๆ จะพาไปพบคน ๆ หนึ่ง เพราะเขาอยากเจอคุณมาก"

ขณะนั้นผู้เสียหายพยายามขัดขืนผู้ต้องหาจึงโมโหใช้มือจับศรีษะผู้เสียหายกดลงและชกต่อย เคราะห์ดีที่ผู้เสียหายสามารถกัดต้นขาด้านซ้ายของผู้ต้องหาได้ จึงฉวยโอกาสที่ผู้ต้องหาเจ็บเปิดประตูลงมากได้ ผู้ต้องหารายนี้กล้ามากยังตามลงมาตะโกนบอก รปภ.ที่เห็นเหตุการณ์ว่า แค่ทะเลาะกับแฟนเท่านั้นด้วย ก่อนหลบหนีไป แต่ชุดสืบสวนได้เบาะแสจากทะเบียนรถของผู้ต้องหาที่กล้องวงจรปิดสามารถจับไว้ได้ จึงติดตามไปจับได้ดังกล่าว

ด้านนายสัมพันธุ์ ให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุเสพยาบ้าเข้าไป แล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงขับรถของพี่ชายไปหาเหยื่อที่ห้าง เมื่อพบจึงลงมือหวังเปลื้องความกำหนัด แต่เหยื่อดิ้นหนีรอดไปได้

ด้านเหยื่อสาว กล่าวว่า ปกติทำธุรกิจส่วนตัวจึงไม่ค่อยได้ไปห้างนัก
 
แต่วันเกิดเหตุคิดว่าจะแวะไปซื้อของใช้จำเป็นเท่านั้น ทำให้ไม่ทันได้ระวังตัว จึงอยากฝากไปถึงผู้หญิงที่จำเป็นต้องจอดรถตามลานควรระมัดระวังให้มาก เมื่อขึ้นรถแล้วควรล็อกทันที เพราะอาจจะไม่โชคดีเหมือนตนเสมอไป 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด
 
โดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยมีอาวุธมีดและทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.