จากกรณีกระเช้าคนงานซึ่งแขวนอยู่บนตึกใบหยก 2 ขาดเป็นเหตุให้คนงาน ที่ขึ้นไปติดป้ายโฆษณษา พลัดตกลงมากระแทกพื้น เสียชีวิตทันที 3 ศพ และบาดเจ็บอีก 2 ราย
ความคืบหน้าล่าสุด วานนี้ ตัวแทนบริษัทคิวกรุ๊ป จำกัด เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รอง ผกก. สส. สน.พญาไท เพื่อให้ปากคำถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้การว่า ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เป็นพนักงานของบริษัท คิว แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท คิวกรุ๊ป มีประสบการณ์ในการทำงานมาประมาณ 1-3 ปี ซึ่งทางบริษัทจะให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยเบื้องต้นพนักงานทุกคนจะได้รับเงินช่วยเหลือจากประกันชีวิต ซึ่งอยู่ระหว่างพิจาณณษค่าสินไหมทดแทน โดยในวันเกิดเหตุไม่มีผู้คุมงานเพราะเป็นวันหยุด ในส่วนของเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยนั้น ทางบริษัทได้มีการตรวจสอบเป็นประจำทุกปี มีอุปกรณ์เซฟตี้พร้อมทุกอย่าง แต่เป็นอุปกรณ์ที่เช่าต่อมาจากอีกบริษัทหนึ่ง
แต่คาดว่าพนักงานอาจจะไม่ได้ใส่ชุดเซฟตี้ ขณะทำงานทำให้เกิดเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ทางบริษัทจะให้ทนายความทำหนังสือส่งไปยังบริษัทที่เช่าอุปกรณ์กระเช้า เพื่อสอบถามข้อมูลและให้ชี้แจงเกี่ยวกับอุปกรณ์ทั้งหมด อย่างไรก็ตามยอมรับว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ร้ายแรงที่สุดในรอบ10 ปี ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบอีกครั้งว่าเหตุที่เกิดขึ้นมีสาเหตุจากความบกพร่องของอุปกรณ์หรือเกิดจากความประมาบเลินเล่อของบุคคล
ต่อมาเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน น.ส.รสริน อมรวงศ์ อายุ 30 ปี ญาติของนายกำธร อมรวงศ์ อายุ 33 ปี ผู้เสียชีวิต และนางสุปรียา ชมระกา อายุ 43 ปี ญาติของนายฤทธิชัย จำญาติ อายุ 21 ปี ผู้เสียชีวิต
ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งทำเรื่องติดต่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศล นางสุปรียา กล่าวว่า ตนเป็นป้าของนายฤทธิชัย มาติดต่อรับศพผู้เสียชีวิตเพื่อไปทำพิธีทางศาสนาที่วัดในอ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ตนอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ผู้เสียชีวิต โดยขอให้ทางบริษัทต้นสังกัดช่วยเหลือเยียวยาอย่างเต็มที่ เพราะหลานตนเพิ่งทำงานได้ไม่กี่เดือน และอยากให้บริษัทมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุมรอบคอบมากกว่านี้ เพราะเป็นงานที่เสี่ยงอันตรายมากจึงอยากให้มีเซฟตี้คอยช่วยพนักงานตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อเพื่อช่วยเหลือเยียวยาจากบริษัทต้นสังกัดแต่อย่างใด
ต่อมาเวลา 14.30 น. พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รอง ผกก.สส.สน.พญาไท พ.ต.ท.ธรรมรักษ์ เรืองดิษฐ์ พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี
พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ พฐ. และเจ้าหน้าที่จากสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมชูปถัมภ์ เดินทางไปอาคารใบหยก 2 ก่อนจำลองเหตุการณ์ด้วยการการหย่อนกระเช้าที่ใช้วันเกิดเหตุลงไปที่ชั้น 36 เพื่อตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ พ.ต.ท.โชติ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เรียกตัวแทนบริษัท คิวกรุ๊ป จำกัด บริษัทแม่ของ บริษัท คิว แอดเวอร์ไทร์ซิ่ง จำกัด มาสอบปากคำ ในประเด็นเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงาน การควบคุมงานต่างๆ โดยบริษัท คิว แอดเวอร์ไทร์ซิ่ง จำกัด ซึ่งได้เช่าเฉพาะกระเช้า วินซ์หรือรอกหมุนหย่อนกระเช้า และสายเคเบิ้ล จาก บริษัท กอนโดร่า แคลมเบอ จำกัด ส่วนอุปกรณ์เข็มขัดนิรภัย หรือเซฟตี้เบลท์ เป็นของบริษัท คิว แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด ซึ่งให้พนักงานทุกคนสวมใส่ขณะปฏิบัติงาน ซึ่งประเด็นเรื่องพนักงานไม่ได้ใส่อุปกรณ์เข็มขัดนิรภัย หรือเซฟตี้เบลท์ เนื่องจากความประมาทหรือไม่นั้น ยังต้องสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ รอผลตรวจกระเช้าที่หักจาก พฐ.และผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมชูปถัมภ์ ว่าสาเหตุที่หักมาจากอะไร ก่อนจะนำมารวบรวมในสำนวนคดีต่อไปยาค่าเสียหาย แต่ทราบว่าที่ผ่านมาทางบริษัทก็มีมาตรการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ดีอยู่แล้ว.