ผวาภัย!ลานจอดรถห้าง โจรบุกประชิดสาวนักธุรกิจ ตุ๊ยท้อง-จับมัด

นักธุรกิจสาวร้อง "ข่าวสด" ถูกคนร้ายบุกทำร้ายถึงในรถ กลางลานจอดรถห้าง แฟชั่น ไอส์แลนด์ ราม อินทรา

ทั้งโดนต่อยท้องถูกทุบและพยายามจับมัด แต่เหยื่อต่อสู้สุดชีวิต เลยรอดออกมาได้ เผยตอนเกิดเหตุมีรปภ.ห้างฯ ผ่านมาเจอ แต่ไม่กล้าช่วย เพราะคิดว่าเป็นเหตุแฟนทะเลาะกัน ก่อนที่คนร้ายจะซิ่งกระบะหลบหนีไป เหยื่อสาวรุดแจ้งตร. ตามเช็กจนรู้ทะเบียนรถคนร้าย เตรียมเรียกตัวมาสอบแล้ว หวั่นกลัวมีหญิงสาวตกเป็นเหยื่ออีก เลยเข้าร้องเรียนเป็นอุทาหรณ์ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ล่าสุดมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 8 พ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รองผบช.น.ดูแลงานด้านสืบสวน

เปิดเผยกรณีที่นักธุรกิจสาววัย 25 ปี
เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่าถูกคนร้ายบุกเข้าไปทำร้ายร่างกายภายในรถยนต์ บริเวณที่จอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอซ์แลนด์ รามอินทรา เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ว่า ขณะนี้ศาลจังหวัดมีนบุรีได้ออกหมายจับที่ 388/2555ลงวันที่ 8 พ.ค. 2555 ให้จับกุมตัวนายสัมพันธ์ ศรีคชา อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาแล้ว ในข้อหาข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดๆ หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยมีอาวุธมีด และทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ     

         

พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนสน.บางชัน เร่งออกติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีแล้ว

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถสรุปได้ว่าคนร้ายประสงค์
ต่อทรัพย์สิน หรือต้องการจับกุมตัวผู้เสียหายไป เนื่องจากมีการอ้างว่าจะพาไปพบคนๆหนึ่ง ส่วนรถกระบะที่คนร้ายนำไปใช้ก่อเหตุนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถของพี่ชายผู้ต้องหาไปหยิบยืมมาแล้วนำไปก่อเหตุ


ผวาภัย!ลานจอดรถห้าง โจรบุกประชิดสาวนักธุรกิจ ตุ๊ยท้อง-จับมัด

สำหรับคดีนี้ได้รับการเปิดเผย เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.บี (นามสมมติ) นักธุรกิจสาว วัย 25 ปี เข้าร้องทุกข์ "ข่าวสด"

กรณีถูกคนร้ายบุกทำร้ายร่างกายถึงภายในรถยนต์ของตนเอง เหตุเกิดบริเวณที่จอดรถชั้น 1 ครึ่ง โซน D ท่าพระจันทร์ ห้างสรรพสินค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์ รามอินทรา เวลา 13.30 น. ของวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา

น.ส.บี กล่าวว่า วันเกิดเหตุขับรถไปห้างสรรพสินค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์ เพื่อทำธุระ

หลังทำธุระเสร็จจึงเดินกลับมาขึ้นรถปรากฏว่าพอปิดประตูกำลังจะสตาร์ตรถ จู่ๆมีคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 155-160 ซ.ม. ผิวดำแดง เปิดประตูหลังด้านซ้ายเข้ามานั่งในรถ ตนตกใจมากพยายามจะล็อกประตูแต่ไม่ทัน เมื่อประชิดตัวคนร้ายได้เอามือปิด ปากไม่ให้ร้อง และต่อยเข้าที่ท้องอย่างแรง ตนจึงขัดขืนและพยายามเปิดประตูรถไปฟาดกับรถที่จอดอยู่ข้างๆ หวังให้สัญญาณกันขโมยดังจะได้มีคนช่วย

น.ส.บี กล่าวอีกว่า ตอนนั้นคนร้ายเห็นท่าไม่ดี จึงกระหน่ำต่อยเข้าที่ท้องหลายครั้ง แต่ตนดิ้นสุดชีวิตจึงถูกบีบคออย่างแรง จนหายใจไม่ออก

จึงแกล้งบอกว่ายอมแล้วๆ และฟุบไปที่เบาะหน้าด้านคนนั่ง คนร้ายจึงปีนข้ามมาที่นั่งคนขับโดยในมือถือเชือกอยู่และเตรียมจะมัด แต่เปลี่ยนใจสตาร์ตรถแทน ตนจึงฉวยโอกาสเปิดประตูพร้อมถีบออกไปให้กระแทกรถที่จอดอยู่ข้างๆ อย่างแรง ทำให้คนร้ายโมโหจิกหัวและชกท้องหลายครั้ง พร้อมกับพูดว่าอยู่เฉยๆ จะพาไปพบคนๆ หนึ่ง แต่ตนดิ้นสู้พร้อมบีบแตรรถจนถูกทุบตีอีกหลายครั้ง โดยคนร้ายบอกว่าถ้าไม่อยู่เฉยๆ จะแทงให้ตายพร้อมกับควักมีดออกมาขู่ด้วย

น.ส.บีเล่าด้วยน้ำเสียงระทึกอีกว่า เมื่อตนหยุดคนร้ายจึงกดศีรษะลงต่ำพร้อมใช้ขาซ้ายกดทับที่คอไว้
 
แต่เนื่องจากคนร้ายสวมกางเกงขาสั้น ตนจึงกัดไปสุดแรงที่ต้นขาของคนร้าย จนคนร้ายรีบยกขาขึ้น ตนจึงรีบวิ่งออกมาจากรถอย่างทุลักทุเล ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินผ่านมา จึงร้องขอความช่วยเหลือ ส่วนคนร้ายซึ่งพยายามตามตนลงมาจากรถได้ตะโกนบอกทั้งสองคนว่าเป็นเรื่องของแฟนทะเลาะกัน อย่ายุ่ง ก่อนที่คนร้ายจะเดินไปเปิดประตูรถกระบะที่จอดอยู่ด้านหลังขับ ออกไป

น.ส.บีกล่าวว่า ขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างฯ เดินมาสังเกต การณ์เพราะได้ยินเสียงดัง ตนจึงตะโกนบอกให้แจ้งตำรวจ
 
และทำอย่างไรก็ได้ที่จะหยุดคนร้ายเอาไว้ แต่รปภ.กลับไม่ทำอะไรเลย ทั้งๆ ที่หน้าตนปูดบวม มีเลือดไหล แถมยังเดินมาพูดกับตนว่านึกว่าแฟนทะเลาะกัน จากนั้นตนจึงโทรศัพท์บอกสามีว่าเกิดอะไรขึ้นและให้รีบมา ก่อนที่จะพากันไปลงบันทึกประจำวันที่สน.บางชัน โดยมีพ.ต.ท. อิสระ ณ พัทลุง พนักงานสอบสวน เป็นผู้รับเรื่อง ซึ่งคนร้ายได้ทิ้งเชือก มีด หมวก และรองเท้าไว้ในรถด้วย

"วันรุ่งขึ้นดิฉันเดินทางไปห้างดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อขอดูกล้องวงจรปิด และขอให้ติดประกาศเลขทะเบียนรถกระบะของคนร้ายไว้ตามจุดต่างๆ ของห้าง เพราะเกรงว่าจะกลับมาลงมือกับผู้บริสุทธิ์อีก โดยเฉพาะผู้หญิงที่อาจเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้ แต่ทางห้างปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่า ทำไม่ได้เพราะไม่สามารถละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของเจ้าของรถได้ ซึ่งถ้าวันนั้นดิฉันไม่ตัดสินใจสู้หรือขัดขืน ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ที่มาร้องเรียนก็เพื่ออยากเตือนภัยผู้หญิงด้วยกัน ให้สอดส่องระวังภัยร้ายที่จะเข้ามาอย่างไม่คาดคิด เพราะขนาดกลางวันแสกๆ ในห้างสรรพสินค้ามีรปภ.ทุกจุดยังเกิดเหตุได้" นักธุรกิจสาว กล่าว

ด้านพ.ต.ท.อิสระ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งความจากเจ้าทุกข์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานไปยังห้างสรรพสินค้าแฟชั่น ไอส์ แลนด์

ขอดูกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ จนทราบยี่ห้อ รุ่น สี และเลขทะเบียน ของรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ โดยเบื้องต้นหลังจากสืบทราบแล้วว่าเจ้าของรถกระบะเป็นของใคร จึงออกหมายเรียกให้มาพบภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งเจ้าตัวรับทราบและรับปากว่าจะเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่แล้ว แต่ยังไม่ได้ระบุวันเวลา สำหรับการสอบปากคำนั้น เจ้าหน้าที่จะสอบถามถึงรายละเอียดต่างๆ อาทิ วัน เวลา ที่เกิดเหตุ และบุคคลใดเป็นผู้ใช้รถคันก่อเหตุ ซึ่งเวลานี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่า เจ้าของรถเป็นผู้ก่อเหตุหรือไม่ ในส่วนของรูปคดีนั้นตำรวจอยากให้เจ้าทุกข์สบายใจ เพราะเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา

"คดีนี้เป็นคดีอุกอาจคนร้ายกระทำการในที่สาธารณะช่วงกลางวันแสกๆ ส่วน ประเด็นที่เจ้าทุกข์กลัวว่า เจ้าหน้าที่จะสรุปคดีออกมาเป็นกักขังหน่วงเหนี่ยว โดยใช้กำลังประทุษร้าย ซึ่งโทษไม่หนักมาก และสามารถออกมาก่อเหตุได้อีกนั้น ขณะนี้คงต้องดำเนินการตามขั้นตอนคือสืบสวนสอบ สวนจนได้ข้อเท็จจริงก่อน ถึงแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายได้ อย่างไรก็ตาม ขอให้เจ้าทุกข์เบาใจได้ เพราะคดีนี้เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด" พ.ต.ท.อิสระ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบภาพในกล้องวงจรปิดของทางห้าง พบว่าสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ สวมเสื้อยืดสีขาวแขนสั้น สวมกางเกงขาสั้นสามส่วน สีน้ำตาล ขับรถกระบะเข้ามาจอดในห้างโดยปักหัวรถเข้าจอด ซึ่งมีพฤติกรรมเหมือนเป็นการสำรวจเหยื่อที่จะลงมือตั้งแต่เวลา 13.06 น.

จากนั้นเวลาประมาณ 13.13 น.ผู้เสียหายได้ขับรถยนต์เข้ามาจอดเยื้องๆ กับรถคนร้าย ก่อนเดินเข้าไปในห้าง

โดยภาพจับได้ว่าคนร้ายได้เดินตามไปดูหน้าเหยื่อ ก่อนเดินกลับมาที่รถกระบะพร้อมสวมหมวกแก๊ปสีแดง และไปยืนอยู่ท้ายกระบะ เมื่อเห็นผู้เสียหายเดินกลับมาเข้ารถ คนร้ายจึงเดินอ้อมมาที่ข้างประตูรถกระบะด้านคนขับ ทำทีเหมือนจะเปิดประตูขึ้นรถ ก่อนเดินรี่ไปขึ้นรถผู้เสียหายในเวลา 13.31 น. ซึ่งจะสังเกตได้ว่าไฟกะพริบขอสัญญาณของรถถูกเปิด 1 ครั้ง ก่อนกะพริบอีก 4 ครั้ง

เวลาประมาณ 13.33 น.ระหว่างที่ต่อสู้ขัดขืนกันอยู่นั้น ช่องจอดรถใกล้ๆ กัน มีรถแล่นเข้ามาจอดพอดี เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผู้เสียหายวิ่งพรวดออกมาจากข้างรถด้านซ้าย

ซึ่งเป็นด้านคนนั่ง ก่อนหายไปจากจอภาพ และคนร้ายเดินออกมาด้านคนขับในสภาพเดินเท้าเปล่า ไม่ใส่หมวก ชี้ไม้ชี้มือไปด้านที่ผู้เสียหายวิ่งไป พร้อมเดินเข้าไปเหมือนจะเอาเรื่อง ก่อนเดินกลับไปที่รถกระบะเพื่อสตาร์ตขับออกไป โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพผู้เสียหายเดินกลับเข้ามาในเฟรม โดยยืนอยู่หลังผู้ชายสวมเสื้อสีขาว ด้วยอาการตื่นตกใจ เมื่อรถคนร้ายแล่นออกไปแล้ว เจ้าหน้าที่รปภ.จึงเดินเข้ามาดู


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์