ตำรวจภาค1 จับอาจารย์ทรงเจ้า รับซื้อกะโหลกมนุษย์จากขี้ยา มาทำคุณไสย์ สารภาพศึกษาวิชาอาคมจากตำราแบกระดิน เพื่อทำพิธีทางไสยศาสตร์ให้ผัวรักผัวหลง แต่สุดท้ายกับไม่เป็นผล จึงให้ลูกน้องไปเผาทิ้ง กระทั่งถูกตำรวจจับ
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 1 พ.ค.2555 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.นิรุธ ประสิทธิเมตต์ ผกก.สภ.ธัญบุรี พ.ต.อ.วรพจน์ ชูเชิด ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายศิงขร หรือพจน์ เครือแดง อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168 หมู่ ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายนิพนธ์ หรือปั๊ม ศรีสุข อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/12 หมู่ 6 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายวรเชษฐ์ หรือปาร์ค ถาวรเพียร อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/22 หมู่ 6 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมของกลาง เศษขี้เถ้า 2 ถุง เลื่อยไฟฟ้า 1 อัน กระดาษรูปอักขระ 4 ชิ้น เลื่อยฉลุ 1 อัน เครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง เศษกระดูก 6 ชิ้น ตำราไสยศาสตร์ 8 เล่ม และ เครื่องไอแพด 1 เครื่อง
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ธัญบุรี พบกะโหลกมนุษย์ จำนวน 5 หัว มีลักษณะรอยเจาะเป็นวงกลมบริเวณหน้าผาก ด้านข้าง และด้านหลัง คล้ายกับการทำคุณไสย์ บรรจุอยู่ในกระสอบอาหารสัตว์ ลอยน้ำมาติดอยู่บริเวณตอม่อใต้สะพานคลอง 13 หมู่ 6 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว กระทั่งวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทราบว่า นายวรเชษฐ์ ได้นำกะโหลกศรีษะไปขายให้กับชายคนหนึ่ง จึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำ
ทั้งนี้ นายวรเชษฐ์ ให้การรับสารภาพว่า เมื่อประมาณต้นเดือน ก.ย.54 ตนร่วมมือกับ นายนิพนธ์ และ นายธวัชชัย หรือบี อ่อนสมทรง ที่กำลังหลบหนีอยู่ในขณะนี้ เข้าไปขโมยกะโหลกศรีษะที่โกดังเก็บศพภายในวัดพิชิตปิตยาราม คลอง 13 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จากนั้นจึงนำไปขายให้กับ นายศิงขร ในราคา 1,200 บาท แล้วนำเงินไปซื้อยาบ้าเสพ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปจับกุมตัว นายศิงขร ได้พร้อมของกลางดังกล่าว
จากการสอบสวน นายศิงขร ให้การรับสารภาพว่า ตนเองมีร้านค้ามินิมาร์ทอยู่ที่คลอง 13 และเปิดเป็นสำนักสักยันต์อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว โดยตนรับซื้อกะโหลกจากทั้ง 3 คนจริง เนื่องจากจะนำมาประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับคุณไสย (ปั้นเหน่ง) สำหรับกะโหลกอีก 5 หัว ที่พบบริเวณตอม่อใต้สะพานคลอง 13 หมู่ 6 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นั้นตนเป็นคนขโมยมาจากสุสานเม่งหุย (มูลนิธิไตรสรณะพุทธสมาคมชลบุรี) หมู่ 10 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี เพราะก่อนหน้านี้ตนเคยบวชเป็นพระที่ย่านดังกล่าวและเห็นมีหลุมฝังศพมาไม่ค่อยมีคนดูแลและสะดวกแก่การขโมย จากนั้นตนจึงขึ้นรถแท็กซี่ไปคนเดียวแล้วลงมือขโมยมา
นายศิงขร กล่าวต่อว่า เมื่อได้มาแล้วจะให้ นายนิพนธ์ เป็นคนตัดและเจียร เนื่องจากมีฝีมือด้านการช่าง หลังจากนั้นจะนำมาทำเป็นฐานรองเทียนและธูป แล้วทำหุ่นสามีภรรยาหันเข้าหากัน เพื่อทำพิธีทางไสยศาสตร์ โดยกะโหลก 1 หัว จะเจียรได้ 4-6 ชิ้น ซึ่งตนศึกษาจากตำราที่วางขายทั่วไป และทำมาแล้วหลายเดือน โดยมีลูกค้าที่มาทำเดือนละ 2 ราย ส่วนค่าครูจะคิดหนึ่งสลึง โดยเมื่อทำสำเร็จแล้วลูกค้า จะให้ค่าสมนาคุณครั้งละไม่เกิน 2,000 บาท ที่ทำมาไม่เคยได้ผลเลย มีที่สำเร็จบ้างอาจเป็นเพราะผัวเมียคู่นั้นเขาคืนดีกันเอง ไม่ได้สำเร็จเพราะวิชาอาคม สำหรับกะโหลกที่พบนั้น ภายหลังตนเจียรเสร็จแล้ว ก็ได้ให้ นายนิพนธ์ นำไปเผา แต่ นายนิพนธ์ กลับนำไปทิ้งกระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว
ด้าน นายวรเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาหลังจากที่ไปขโมยกะโหลกมาจากวัดพิชิตปิตยาราม คลอง 13 ต.บึงน้ำรักษ์ ก็รู้สึกว่าถูกเจ้าของกะโหลกนั้นตามมาหลอกหลอน มาร้องไห้ขอหัวกะโหลกคืน บางครั้งมากระโดดเกาะหลังบ้าง
พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวว่า แต่ละกะโหลกที่ นายศิงขร ไปขโมยมาจากสุสานนั้น ล้วนแต่มีชื่อของเจ้าของทั้งนั้น ซึ่งกะโหลกแต่ละชิ้นนั้น มีร่องรอยผ่าพิสูจน์และตัดเย็บมา ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ของการทำงานของสถาบันนิติเวชที่เก็บข้อมูลและกองพิสูจน์หลักฐานกลางที่เก็บพยานหลักฐาน และการสืบสวนที่พบศพกะโหลกนั้น ครั้งแรกเชื่อว่าน่าจะเป็นการทำคุณไสยและไสยศาสตร์ เพราะทุกกะโหลกนั้นมีเจ้าของ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหากับ นายวรเชษฐ์ ว่าร่วมกันลักทรัพย์ ส่วน นายศิงขร และ นายนิพนธ์ ได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่นหรือรับของโจร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นแถลงข่าว ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ทำพิธีขอขมาลาโทษกะโหลกทั้งหมด โดย นายศิงขร เป็นผู้นำทำพิธี