พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1
ระบุถึงกรณีพบกะโหลกมนุษย์ 5 หัว ใส่กระสอบปุ๋ย หลังถูกนำไปทิ้งใต้สะพานคลอง 13 จ.ปทุมธานี วานนี้ (18 เม.ย.) ยังไม่มีความชัดเจนว่ากะโหลกทั้งหมดเป็นหญิงหรือชาย และถูกนำมาทิ้งไว้นานเท่าใด ก่อนจะส่งให้ทางสำนักงานพิสูจน์หลักฐานดำเนินการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียด
"ส่วนข้อสันนิษฐานเบื้องต้นจุดที่กะโหลกแหว่งออกไปเป็นรูกว้างคล้ายๆ กันทุกอันน่าจะเป็นเพราะความเก่าและไม่น่าจะเป็นการเจาะโดยใช้อาวุธแต่อย่างใด น่าจะเป็นกะโหลกที่ใช้ทำพิธีทางไสยศาสตร์ หรืออาจเก็บมาจากพิธีล้างป่าช้า และเป็นการตั้งใจนำมาทิ้งในจุดดังกล่าว ไม่ได้ลอยมาในช่วงที่เกิดน้ำท่วมแต่อย่างใด" พล.ต.ต.คำรณวิทย์ กล่าว
โดยกะโหลกทั้ง 5 หัว ถูกพบในนถุงปุ๋ยสีขาว มัดปากถุงด้วยเชือกฟาง
ระบุอักษร เทสตี้ ที่หน้าผาก, ด้านหลัง, ขมับซ้าย, ขมับขวา มีร่องรอยเป็นรูกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-3 นิ้ว และพบเป็นเศษกระดูกป่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยประมาณ 2 กำมือ เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปและเก็บร่องรอยที่พบในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน
นายธงชอบ คพเสน อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นผู้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบกะโหลกมนุษย์ กล่าวว่า
ขณะที่ตนเองกำลังหาปลาอยู่แถวประตูน้ำจู่ตาเพ็ญ อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นสัปเหร่อของวัดพิชิตติปยาราม ได้เดินมาหาตนและบอกกับตนว่าพบโครงกะโหลกมนุษย์อยู่ในถุงปุ๋ย 5 หัว วางอยู่ติดกับตอม่อใต้สะพานคลอง 13 หน้าวัดให้ช่วยไปดุและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
ด้าน พ.ต.อ.นิรุตน์ ประสิทธิ์เมตต์ ผกก.สภ.ธัญบุรี กล่าวว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบว่าสภาพกะโหลกศีรษะที่มีการเจาะเป็นรูกลม
ซึ่งลักษณะคล้ายเป็นเครื่องเจาะ ลักษณะไม่น่าจะเกิดจากร่องรอยกระสุน เพราะลักษณะการเจาะนั้นเหมือนจะนำเอาชิ้นส่วนที่ถุกเจาะเอาไปทำคุณไสยหรือเครื่องรางของขลัง อีกทั้งกะโหลกที่พบแต่ละหัวนั้นน่าถ้ายังมีชีวิตน่าจะอายุประมาณ 25-40 ปี แต่อย่างไรก็ตาม จะได้ส่งตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ส่วนในแนวทางในการสืบสวนจะให้ชุดสืบสวนลงหาข้อมูลจากตามวัดหรือคนที่ชอบเลี้ยงแมวหรือตามวัดต่างๆ ไว้จำนวนมาก เนื่องจากถุงปุ๋ยที่ใส่กะโหลกเป็นถุงปุ๋ยใส่อาหารแมว ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าคนที่นำกะโหลกมาทิ้งอาจจะเป็นคนรักแมว จะเร่งดำเนินการสืบสวนข้อมูลอย่างละเอียด