รวบด็อกเตอร์อดีตปลัดอบต.ลวงสาวค้ากาม

วันนี้ (18 เม.ย.) พ.ต.อ.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งจากนายบุญรอด (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี ว่า น.ส.โอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ลูกเลี้ยงที่หายไปจากบ้านใน จ.สระบุรี นานกว่า 2 เดือน ได้โทรศัพท์มาให้หาทางช่วยเหลือ เนื่องจากถูกกักขังอยู่ในร้านอาหารชื่อ "คาวบอยเบียร์สด" ไม่มีเลขที่ หมู่ 8 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังไปตรวจสอบ พบร้านดังกล่าวมีลักษณะตรงกับที่ได้รับแจ้งจากนายบุญรอด โดยพบว่าด้านหลังร้านได้แบ่งเป็นห้องพักจำนวน 6 ห้อง ปิดล้อมด้วยรั้วสังกะสีและปิดประตูไว้อย่างแน่นหนา

จากการตรวจสอบภายในร้านพบนายสุริยะ จาติเกตุ หรือเฮียจ๊อบ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 278 หมู่ 1 ต.พนมทวน อ.พนมทวน จ. กาญจนบุรี อดีตปลัด อบต.ดอนเจดีย์ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี และจบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง อยู่ในห้องและได้แสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน โดยมี น.ส.สุถิน กรณีย์ อายุ 39 ปี ทำหน้าที่ควบคุมดูแลพนักงานในร้าน รวมทั้งจัดหาหญิงสาวให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ และนายเดชา บุบผาชาเต อายุ 29 ปี ทำหน้าที่ดูแลรถลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการจึงเข้าควบคุมตัว

นอกจากนี้ในบ้านพักพบ น.ส.โอ๋ ลูกบุญธรรมของผู้แจ้ง อยู่ในห้องพักหมายเลข 1 ซึ่งหลังจากเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ น.ส.โอ๋ถึงกับร้องไห้ ปล่อยโฮด้วยความดีใจ พร้อมให้การว่า ถูกเพื่อนคนหนึ่งใน จ.สระบุรี หลอกลวงว่า ให้มาทำงานเป็นสาวเชียร์เบียร์ แต่กลับให้มาขายบริการทางเพศให้กับลูกค้าใน จ.สุพรรณบุรี แถมยังถูกกักขังไว้ภายในร้านไม่ให้ออกไปไหน และไม่ให้ติดต่อกับใครแม้แต่คนในร้านด้วยกันเอง ที่สำคัญยังถูกนายสุริยะบังคับให้รับแขกทุกวันแม้กระทั่งวันที่มีประจำเดือน โดยมักขู่ว่าเป็นถึงอดีตปลัด เมื่อหันมาทำอาชีพนี้ก็ต้องปกครองคนในร้านให้ได้ กระทั่งช่วงเช้ามืดของวันนี้ น.ส.โอ๋ ได้ฉวยโอกาสแอบใช้โทรศัพท์มือถือของเพื่อนโทรไปหาพ่อเลี้ยงให้เข้าช่วยเหลือได้ในที่สุด นอกจากนี้ภายในห้องพักที่เหลือพบผู้หญิงพักอยู่ในแต่ละห้องอีก 5 คน สมุดบันทึกการทำงานของพนักงานในร้าน 1 เล่ม ถุงยางอนามัยที่ยังไม่ได้ใช้อีกกว่า 50 ชิ้น

จากการสอบสวนนายสุริยะ ให้การว่า สมุดบันทึกมีไว้สำหรับจดรายการรายรับรายจ่ายค่าตัวเด็ก โดยตนจะได้ค่าห้องพัก 50 บาท และได้ส่วนแบ่งจากเด็กอีกคนละครึ่งคือ 350 บาทต่อครั้ง และได้ประกอบอาชีพนี้มานานกว่าปีเศษแล้ว เนื่องจากรายได้ดีกว่าที่เคยเป็นปลัด อบต. จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่ง ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ เพ็ชรวงษ์ ร้อยเวร สภ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ดำเนินคดีในข้อหาเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไป เพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม,ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่นรับตัวบุคคลซึ่งมีผู้จัดหา ล่อไป หรือพาไป หรือสนับสนุนในการกระทำความผิดดังกล่าว,ร่วมกันค้ามนุษย์ และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย.