วานนี้ ( 18 เม.ย.) เวลา 08.30 น. พ.ต.ท.ภาศพงษ์ ศรีเมือง พงส.(สบ2) สภ.เมืองศรีสะเกษ
รับแจ้งมีพระสงฆ์นอนมรณภาพอยู่ภายในกุฏิ ที่ใต้วิหารพระนอน วัดเจียงอีศรีมงคลวราราม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยพ.ต.อ.อัยรัช ชินประยูร ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ พ.ต.ท.ชยากร เทศะบำรุง รอง ผกก.(ป.) พ.ต.ท.กมลวรรธ สุกใส รอง ผกก.(สส.) เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจิตต์ธรรมสถานศรีสะเกษ และแพทย์รพ.ศรีสะเกษ
ที่เกิดเหตุพบศพ พระวิรัตน์ จิตติธัมโมภิกขุ หรือ พ.อ.วิรัตน์ เพ็ชรนอก อายุ 66 ปี อดีตนายทหารสังกัดศูนย์รักษาปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) กองบัญชาการกองทัพไทย
สภาพศพนอนคว่ำหน้าห่มสบงเพียงผืนเดียว มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่บริเวณศรีษะเป็นแผลเหวอะหวะ เลือดไหลนองเต็มพื้น ส่วนที่พื้นมีเศษขวดแก้วแตกเกลื่อนห้อง และรอยเลือดหยดเป็นทางออกออกไปนอกกุฏิ ส่วนที่บริเวณห้องน้ำหลังกุฏิ พบเหล็กฉาก ขวดเหล้าและเสื้อผ้าเปื้อนเลือด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนพระราชกิตติรังษี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ให้การว่า พระรูปที่มรณภาพเป็นพระที่ย้ายมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
มาขอจำพรรษาที่วัดเจียงอีศรีมงคลวราราม ได้เพียง 1 พรรษา เพื่อมาบวชเรียนในระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้องเรียนจังหวัดศรีสะเกษ (มจร.ศรีสะเกษ) จึงอนุญาติให้จำพรรษาอยู่ที่วัด ขณะที่ นายกรัช สิงโตทอง อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 5 ต.ดินแดง อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ ลูกศิษย์วัด ให้การว่า ช่วงเวลา 18.00 น. วานนี้ (17 เม.ย.) พระวิรัตน์ ได้ใช้ให้ออกไปซื้อเหล้าขาวอยู่ที่ร้านค้าข้างวัด และขณะนั้นพบว่าภายในกุฏิมีพระอยู่ 3 รูป คือ พระอภิรักษ์ โพธิ์งาม พระลูกวัด ซึ่งเป็นเจ้าของกุฏิ พระวิรัตน์ ผู้ตาย และสามเณรเอ (นามสมมุติ) อีก 1 รูป รวมทั้งมีเอก (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี นั่งอยู่ด้วย โดยทั้งหมดกำลังนั่งดูทีวี การถ่ายทอดสดมวยไทยไฟท์ จากนั้นตนได้ยื่นเหล้าขาวให้กับพระวิรัตน์ แล้วกลับไปนอนอยู่ที่ใต้ศาลาวัด และตลอดทั้งคืนไม่ได้ยินเสียงอะไรผิดปกติ จนกระทั่งตื่นมาตอนเช้าจึงทราบว่าพระวิรัตน์มรณภาพแล้ว
ด้าน นายวิเชียร ทาระบุตร อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 10 ต.หนองหมี อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า
ตนและผู้ตายได้นั่งดื่มเหล้าอยู่ภายในกุฏิ และดูการถ่ายทอดสดการแข่งขันชกมวยไทยไฟท์ กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. พระอภิรักษ์กับผู้ตายมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องเชียร์มวยคนละฝ่าย จนถึงขั้นชกต่อยกันภายในกุฏิ ตนและสามเณรเอก พยายามเข้าไปห้ามปราม แต่พระอภิรักษ์ ใช้เหล็กฉาก ยาวประมาณ 1 เมตร ตีเข้าที่ศรีษะด้านหลังพระวิรัตน จนล้มฟุบลงกับพื้นนอนแน่นิ่ง และมารู้อีกครั้งว่าพระวิรัตน์เสียชีวิตแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวพระอภิรักษ์ หรือนายอภิรักษ์ โพธิ์งาม ไปลาสิกขาแล้ว แต่นายอภิรักษ์ ยังคงให้การปฏิเสธ
โดยอ้างว่าผู้ตายหกล้ม 2 ครั้ง จึงพยายามเข้าไปอุ้มลุกขึ้น แต่อุ้มไม่ไหว จึงปล่อยให้นอนอยู่กับพื้น แล้วนำจีวรมาห่มให้ โดยไม่รู้ไม่เห็นว่ามีใครตีที่ศรีษะของผู้ตาย เพราะนอนหลับและมีผ้าม่านบังไว้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งศพพระวิรัตน์ ไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมนำแหล็กฉากพร้อมทั้งคราบเลือดในที่เกิดเหตุไปทำการตรวจดีเอ็นเอแล้ว