วันนี้ (18 เม.ย.) เวลา 05.20 น. ร.ต.อ.เอกชัย มูลลี พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในบ้านเลขที่ 136/35 หมู่ 8 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านพบชาวบ้านจำนวนมาก กำลังแตกตื่นกับเหตุการณ์ที่ น.ส.สำลี ศิริสุวรรณ อายุ 61 ปี ซึ่งเดินโซซัดโซเซคล้ายเมาสุรา ออกมาหวีดร้องขอความช่วยเหลือ หลังถูกนายสมศักดิ์ ศิริสุวรรณ อายุ 68 ปี ผู้เป็นสามีใช้ไม้ตะพดตีเข้าที่ศีรษะจนแตก เลือดไหลอาบใบหน้า และตามร่างกาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ให้การปฐมพยาบาล และนำตัวส่งที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายสมศักดิ์ ผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายภรรยา ขณะกำลังนั่งอยู่ภายในบ้านพบว่า นายสมศักดิ์ล้มป่วยเป็นอัมพฤกษ์ไม่สามารถเดินได้ ต้องใช้ไม้ตะพดค้ำยัน โดยมี ด.ช.มนัสนันท์ ศิริสุวรรณ อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านเตาถ่าน หลานชายดูแลอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายสมศักดิ์มาสอบปากคำที่โรงพัก
สอบสวนนายสมศักดิ์ ให้การว่า ภรรยาเป็นคนชอบดื่ม ไม่ยอมทำงานอะไร ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ภรรยาได้ตั้งวงดื่มสุรากับเพื่อนบ้านติดต่อกัน 3 วัน จนเมาไม่ได้สติ โดยก่อนเกิดเหตุภรรยาเมากลับมาและได้เข้ามาต่อว่าหลานชาย และทำร้ายร่างกายอย่างทารุณด้วยการจับศีรษะโขกกับเสาปูนจนได้รับบาดเจ็บ และร้องให้ช่วย ตนทนไม่ไหวจึงคลานเข้าไปช่วยหลาน โดยใช้ไม้ตะพดตีที่ศีรษะของภรรยา 2 ครั้งจนศีรษะแตก จากนั้นภรรยาได้หวีดร้องวิ่งออกไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน กระทั่งมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ด้าน ร.ต.อ.เอกชัย กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุ ให้การรับสารภาพว่า ได้ทำร้ายร่างกายภรรยาจริง ด้วยเหตุที่พยายามเข้าไปช่วยหลานชายที่ถูกทำร้ายอย่างทารุณ ประกอบกับคำให้การของหลานชายที่ให้การตรงกัน จึงเห็นว่าผู้ก่อเหตุที่ป่วยพิการ ไม่มีเหตุจงใจจะทำร้ายร่างกายภรรยา เพียงแต่ต้องการปกป้องหลาน จึงให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนปล่อยตัวกลับบ้าน.