เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (17 เม.ย.) ที่ห้องประชุมใหญ่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รองผบช.ภ.5 นายวิชัย ไชยมงคล ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 นายอิศรา นานาวิชิต หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 5 ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นางสาวพิชญ์สิณี ประเสริฐศรี หรือชื่อเดิม นางสาวฐิฎาภรณ์ คำป๊ก อายุ 32 ปี หรือน้องชมพู่ อยู่บ้านเลขที่ 258/586 ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่คลังเวชภัณฑ์ แผนกเภสัชกรรม โรงพยาบาลเซ็นทรัลเมโมเรียล ในข้อหาลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างและข้อหาปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม หลังจากมีหลักฐานว่า นางสาวพิชญ์สิณี ได้ขโมยยาซูโดอีเฟรดีนจากโรงพยาบาลไปขายต่อ จากการสอบสวนทราบว่า ระหว่างเดือน พฤษภาคม ถึงเดือนกันยายน 2554 นางสาวพิชญ์สิณี ได้ทยอยขโมยยาซูโดอีเฟรดีนจากคลังยาในโรงพยาบาลไปหลายครั้งรวมกว่า 5,000 เม็ด และในช่วงเวลาเดียวกันยังปลอมแปลงแบบคำขอซื้อยาซูโดอีเฟรอีน ของโรงพยาบาลก่อนส่งใบสั่งซื้อไปยังตัวแทนจำหน่ายยาเพื่อซื้อยาซูโออีเฟรดีนเดี่ยว และยาที่มีส่วนผสม รวมแล้วกว่า 375,000 เม็ด เมื่อได้ยามาแล้วจึงนำไปจำหน่ายต่ออีกทอดหนึ่ง
พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รองผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า ในระหว่างที่มีการจับกุมดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสั่งซื้อยาซูโดอีเฟรดีนหลายราย ตำรวจภูธรภาค 5 ได้รับการประสานจากโรงพยาบาลเซ็นทรัลเมโมเรียลว่าตรวจพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาและยังมียาหายไปจากคลังเวชภัณฑ์ของโรงพยาบาล ขณะที่ทางโรงพยาบาลได้มอบอำนาจให้ น.ส.การะเกด กัณติพิพัฒน์กุล เป็นตัวแทนของโรงพยาบาลเข้าแจ้งความกับร้องทุกข์กับ พันตำรวจโทสวัสดิ์ หล้ากาศ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนสถานนีตำรวจภูธรอำเภอเมืองเชียงใหม่ ทำหน้าที่หัวหน้าพนักงานสอบสวนซึ่งได้มีการรับคำร้องร้องทุกตามคดีอาญาที่ 686/2555 วันที่ 12 เมษายน ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ 215/2555 จับกุมตัว โดยเบื้องต้นนางสาวพิชญ์สิณี ได้ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับดีเลอร์ยาหลายบริษัทที่กรุงเทพทำกันเป็นขบวนการในการปลอมแปลงเอกสารสั่งซื้อยาซูโอ ซึ่งในส่วนตนรับหน้าที่ปลอมเอกสาร และทางดีเลอร์ของบริษัทยาจะดำเนินการไปสั่งซื้อจ่ายเงินที่บริษัท และนำยาไปเอง และตนก็ได้รับส่วนแบ่งในตรงจุดนี้เท่านั้น
รองผบช.ภ.5 กล่าวต่อไปอีกว่าสำหรับดีเลอร์ยาที่เราได้รับทราบข้อมูลมามีประมาณ 4 คนที่เกี่ยวข้องล้วนทำงานให้กับบริษัทยายักษ์ใหญ่ที่ผลิตยาที่มีส่วนผสมของสารซูโออีเฟรดีน พอดีเลอร์ยาเหล่านี้รับยามาก็จะนำส่งให้ผู้รวบรวมทำการแกะเม็ดออก ก่อนจะลำเลียงทั้งหมดส่งให้กับโรงงานผลิตยาเสพติดที่ประเทศเพื่อนบ้านทำการผลิตเป็นยาบ้า และยาไอซ์ ก่อนจะส่งกลับมาขายที่ประเทศไทย ซึ่งตอนนี้เราก็รู้หมดแล้วว่าทั้งหมดมีใครบ้างเครือข่ายโยงใยเป็นอย่างไรตอนนี้กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจะขออนุมัติศาลออกหมายจับทั้งหมด เครือข่ายเหล่านี้เท่าที่ทราบก็เชื่อมโยงกับกรณีของโรงพยาบาลสยามราษฏ์ ที่เจ้าหน้าที่รวมกับดีเลอร์ยาสั่งซื้อยา และยังเชื่อมโยงกับซองยาที่พบจำนวนมหาศาลที่อ.สันกำแพง อ.แม่อาย และที่จังหวัดพะเยา เครือข่ายนี้เป็นเครือข่ายใหญ่มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก ตอนนี้เราต้องขอเวลาหาพยานหลักฐานเพื่อจะได้กวาดล้างจับกุมทั้งหมดต่อไป.