โจรบุกเดี่ยวควงปืนจี้ ธ.กสิกรไทยย่านลาดกระบัง โกยราว 8 แสนหนีลอยนวล
เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 10 เมษายน พ.ต.ท.ทองอยู่ เงินสุข พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.ฉลองกรุง ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ภายในธนาคารกสิกรไทย สาขานิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ตั้งอยู่เลขที่ 40 ในอาคารสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ห้องเลขที่ 101A-103A ถนนฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กทม. จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.3 พ.ต.อ.ลาภ ศรีสำอาง ผกก.สน.ฉลองกรุง พ.ต.ท.ประเสริฐ รัตนรุ่งโรจน์ สว.สส. และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุภายในธนาคารบริเวณด้านหน้าพบตู้รับบัตรคิวล้มอยู่ ที่ฝ้าเพดานพบรอยกระสุนปืน 1 รู โดยมีพนักงานธนาคารอยู่ในอาการตื่นตระหนก จากการสอบสวนนายธนกฤต จำปาลี อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่ประจำธนาคารหน้าเคาน์เตอร์ กล่าวว่า ตนประจำอยู่เคาน์เตอร์ ช่องที่ 2 ซึ่งขณะเกิดเหตุมีลูกค้ามาใช้บริการจำนวนมากเนื่องจากเป็นช่วงพักเที่ยง ระหว่างนั้นมีคนร้าย 1 คน สวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบสีดำ ใส่ถุงมือสีขาว สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ กางเกงขายาวสีดำ สูงประมาณ 170 ซม. ได้เปิดประตูเข้ามา โดยมือขวาของคนร้ายถืออาวุธปืนสีเงินไม่ทราบขนาด มือซ้ายถือกระเป๋าสีดำ โดยคนร้ายไม่พูดพร่ำทำเพลงใช้อาวุธปืนยิงขึ้นเพดานทันที 1 นัด แล้วเดินถือปืนเข้ามาที่เคาน์เตอร์2 พร้อมวางกระเป๋าบนเคาน์เตอร์และเอาปืนจ่อใส่ตนส่ายไปมา ก่อนจะกวาดเงินสดในตะกร้าซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ จำนวน 732,000 บาท ใส่กระเป๋า แล้ววิ่งหลบหนีไปขึ้นรถจยย. ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น มีโอ สีดำ-แดง ไม่ติดแผ่นป้านทะเบียนที่จอดอยู่ด้านหน้าธนาคาร ขับย้อนศรไปตามถนนในนิคมอุตสาหกรรม โดยใช้เวลาก่อเหตุเพียง 20 วินาทีเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทั้งนี้ธนาคารดังกล่าวเพิ่งเปิดทำการได้เพียง 2 ปี โดยไม่มีรปภ.และเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำธนาคารอยู่ มีเพียงรปภ.ที่ดูแลอาคารประจำอยู่ด้านนอกเท่านั้น เมื่อเกิดเหตุจึงไม่สามารถเข้าไประงับเหตุได้ทันที อีกทั้งธนาคารพึ่งเปิดทำการวันแรกหลักจากหยุดยาวมา 4 วัน จึงทำการเบิกเงินสดสำรองใส่ไว้ในตระกร้าเพื่อให้บริการลูกค้าจำนวนมากกว่า 1 ล้านบาท แต่คนร้ายสามารหยิบไปได้เพียง 7.3 แสนเท่านั้น
ด้าน พล.ต.ท.วินัย เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะมีการมาดูลาดเลาไว้ก่อนเป็นอย่างดี เพราะมีความเชี่ยวชาญด้านสถานที่ เข้ามาก่อเหตุโดยไม่มีการลังเลและรู้ว่าเค้าเตอร์และเงินสดอยู่ที่จุดใด แต่เบื้องต้นไม่พบพิรุธว่ามีคนภายในธนาคารเกี่ยวข้องด้วย แต่อย่างไรก็ตามกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ ซึ่งตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งหาภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมตรวจสอบเส้นทางหลบหนีของคนร้าย เพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป