รองผบ.ตร.เผยความคืบหน้าคดี คาร์บอมยะลา-หาดใหญ่ พร้อมวอนปชช.ช่วยสังเกตรถต้องสงสัย 5 คัน ที่ถูกโจรกรรม หวั่นใช้ก่อเหตุ
จากกรณีที่เกิดเหตุคนร้ายนำระเบิดซุกในรถยนต์กระบะ และรถยนต์เก๋ง ก่อนที่จะนำไปจอดที่ถนนรวมมิตร เขตเทศบาลนคณะยะลาและชั้นใต้ดินห้างสีการ์เด้นท์หาดใหญ่จ.สงขลา ก่อนที่จะจุดชนวนระเบิดในเวลาไล่เลี่ยกัน เป็นเหตุมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2555 ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 10 เมษายน ที่ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) อ.เมือง จ.ยะลาพล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าด้านคดี รวมทั้งมอบนโยบายในการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ระดับ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ผู้กำกับการสถานีตำรวจ และหัวหน้าสถานีตำรวจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมว่า สำหรับความคืบหน้าด้านคดีนั้น หลังจากที่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้จำนวนหลายราย ซึ่งก็พบว่ามีความเชื่อมโยงของเหตุการณ์ทั้งในพื้นที่ จ.ยะลาและ อ.หาดใหญ่จ.สงขลา โดยเฉพาะรถยนต์ฮอนด้าซีวิคสีดำ ที่คนร้ายนำไปก่อเหตุที่ลีการ์เด้นท์หาดใหญ่ ที่พบว่าถูกใช้ร่วมก่อเหตุในพื้นที่ ต.กาลอ อ.รามัน จ.ยะลาด้วยเช่นกัน ซึ่งมีความเชื่อมโยงในส่วนของตัวบุคคลที่ควบคุมตัวได้ชัดเจน แต่ในเบื้องต้นบุคคลที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเอาไว้ซักถามนั้น ยังไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวนก็เร่งหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมแล้ว
“สำหรับนายดุลละหะเล็ง ยามาสกา ที่ควบคุมตัวได้นั้น จากวัตถุโดยเฉพาะรถยนต์นั้นมีความเชื่อมโยงชัดเจน ซึ่งทำให้จะต้องโยงคดีทั้งสองคดี เป็นคดีเดียวกัน โดยทางท่าน ผบ.ตร. ท่านก็ได้สั่งการลงมาแล้ว แต่ในเบื้องต้นผู้ที่ถูกควบคุมตัวนั้นก็ยังไม่ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่มากนัก” รอง ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.อ.วรพงษ์ ยังกล่าวถึงมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า จะต้องขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนในเรื่องของพื้นที่เซฟตี้โซน พื้นที่จัดงานสงกรานต์ ที่จะต้องไม่ให้รถผ่านเข้าออกได้ ซึ่งจะสามารถดูแลรักษาความปลอดภัยได้เต็มที่ โดยผู้ประกอบการในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ก็เห็นด้วยกับมาตรการนี้แล้ว ในส่วนของยะลาก็เช่นเดียวกันก็ต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ช่วยกันดูแล สอดส่องรถยนต์และรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย โดยเฉพาะรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมไปจำนวน 5 คัน ที่ทางเจ้าหน้าที่จะได้นำป้ายประกาศเลขทะเบียนของรถทั้ง 5 คันมาติดให้พี่น้องประชาชนได้ช่วยกันสังเกต ซึ่งหากพบรถยนต์ที่มีป้ายทะเบียนรถทั้ง 5 คันดังกล่าว ก็ให้เชื่อว่าเป็นรถเป้าหมายที่จะเข้ามาก่อเหตุ ตนเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับป้ายทะเบียนรถเป้าหมายทั้ง 5 คัน ที่จะต้องตรวจสอบเป็นพิเศษ ประกอบด้วย บน 3384 ลำปาง ม.1137 ปัตตานี บต 9179 ปัตตานี บฉ 2256 ยะลา และ ผค 4883 สงขลา