จากกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ พบซองยาแก้หวัดชนิดต่างๆจำนวนมากถูกทิ้งไว้ในป่าไมยราบ
ริมถนนสายซุปเปอร์เชียงใหม่-สันกำแพง บ้านน้อย หมู่ 11 ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่โดยในพื้นที่ดังกล่าวพบถุงขยะขนาดใหญ่ถูกทิ้งเกลือนกราดตามพงป่าไมยราบนับรวมได้ 39 ถุงข้างในพบซองยาแก้หวัดชนิดต่างๆเช่น ซูลีดีน นาซิเฟด ฟาเฟด ซินูเฟด แอนติเฟด โพลิเฟด นาโซลีน มิลาเฟด และโคเฟด และยังมียี่ห้ออื่นๆอีกหลายชนิดและก่อนหน้านั้นก็พบซองยาแก้หวัดและตัวยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของสารที่ใช้ผลิตยาเสพติด ที่ต.บ้านกลาง อ.สันกำแพงกว่า 1 ล้านเม็ด และจากที่ทางเจ้าหน้าที่องค์การอาหารและยาบุกเข้าตรวจสอบโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งกลางเมืองเชียงใหม่และพบยาซูโออีเฟดรีนเดี่ยวหายไป 1 แสนเม็ด ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันนี้(4 เม.ย.) พล.ต.ต.ชำานาญ รวดเร็ว รองผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า ขณะนี้คดีทั้งหมดได้ส่งให้ดีเอสไอดำเนินการแล้วเหลือเพียงคดีที่อ.แม่อาย อ.สันกำแพง ที่บ้านน้อย ต.สันกำแพง ซึ่งทั้งสองคดีกำลังรอผลการตรวจรหัสยาว่ามาจากบริษัทไหนส่งไปให้ใครบ้าง
พ.ต.ท.สามารถ บุญตันสา รองผกก.สส.สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่คณะกรรมการอาหารและยา
จากส่วนกลางพร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เชียงใหม่ เข้าตรวจค้นโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งกลางเมืองเชียงใหม่ หลังตรวจพบว่ามีการสั่งซื้อยา "ซูโดอีเฟดรีนเดี่ยว" ชนิดที่ไม่มีส่วนผสมตัวยาชนิดอื่นและกลายเป็นขวดเปล่าถูกทิ้งไว้ที่ป่าไมยราบที่บ้านน้อย อ.สันกำแพง โดยจากการตรวจสอบพบว่ามีการสั่งซื้อจำนวน 8 ครั้งตั้งแต่ปี 53 รวมจำนวนสารซูโออีเฟดรีนเดี่ยวจำนวน 210,000 เม็ด ผู้สั่งซื้อเป็นคนเดียวกันคือนางสาว น. (นามสมมุติ) เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลและเป็นคนปลอมลายเซ็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลในการสั่งซื้อทั้ง 8 ครั้ง โดยทุกครั้งที่สั่งซื้อเมื่อของนำมาส่งกลับไม่ถูกส่งเข้าโรงพยาบาลจะมีดีเทลยาชื่อนางสาว อ. (นามสมมุติ) มารับยาทั้งหมดไป และจะมีค่าตอบแทนให้กับนส. น. (นามสมมุติ) จำนวนหนึ่งคดีนี้เราก็รับเรื่องไว้และทำการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องและจะส่งเรื่องให้ทางดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษต่อไป เบื้องต้นนส. น. (นามสมมุติ)ให้การรับสารภาพว่าปลอมทุกครั้งจริง
ทางด้าน พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทร์ขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)
กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดียาแก้หวัดที่มีส่วนผสมสารซูโดอีเฟดรีนหายจากระบบรักษาของโรงพยาบาลจำนวนมากว่า วันนี้( 4 เม.ย.)ได้จัดส่งชุดพนักงานสอบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลที่โรงพยาบาลหนองกี่ จ.บุรีรัมย์ กรณีพบเจ้าหน้าที่จัดซื้ออ้างชื่อพยาบาลในการสั่งซื้อยา และในวันพรุ่งนี้(5 เม.ย.) พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะเข้าตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมที่รพ.ฮอด และรพ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ รวมถึงขยายผลตรวบสอบรพ.รัฐและเอกชน บางแห่งที่พบความผิดปกติในการสั่งซื้อยา เบื้องต้นยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อรพ.เหล่านี้ได้เพราะเกรงว่าจะไหวตัว ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบได้ยาก อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาร่วมกับข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข
พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ ยังกล่าวถึงการตรวจสอบยอดยาที่ไม่ตรงกันของโรงพยาบาลนวมินทร์ 1 ว่า จากการตรวจสอบรายละเอียดด้านเอกสารพบว่ามีข้อน่าสงสัยว่าบริษัทยาอาจอ้างชื่อโรงพยาบาลเพื่อสั่งยาจากโรงงาน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทั้งบริษัทยาและโรงพยาบาล เพื่อให้ทราบยอดการสั่งยาทีแท้จริง