วันนี้(4 เม.ย.) พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผบก.ภ.จว.ยะลา ได้สั่งการให้จุดตรวจ 4 มุมเมือง ประกอบด้วย จุดตรวจท่าสาป เส้นทางมาจาก อ.ยะหา อ.กาบัง
จุดตรวจมลายูบางกอก เส้นทางมาจาก อ.รามัน อ.บันนังสตา อ.ธารโต จุดตรวจขุนไว เส้นทางมาจาก อ.ยะรัง จ.ปัตตานี และจุดตรวจเมืองทอง เส้นทางมาจาก อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ตั้งด่านตรวจเข้มรถยนต์ รถจยย. และบุคคล จะตรวจหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลักทุกคน เพื่อตรวจหาผู้ที่มีหมายจับทั้ง หมาย พ.ร.ก. และ หมาย ป.วิอาญา ซึ่งอาจจะเข้ามายังตัวเมืองยะลา อย่างละเอียดเข้มงวด และให้ควบคุมรถยนต์ และรถจยย. ที่ขาดการเสียภาษี ตลอดจนไม่สามารถนำหลักฐานการเป็นเจ้าของมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ได้ หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์ 2 จุด ใจกลางเมืองยะลา มีผู้เสียชีวิต จำนวน 11 ราย และ ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก บ้านเรือน ร้านค้า เสียหาย จำนวนหลายคูหา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 มี.ค.55 ที่ผ่านมา และหน่วยงานด้านความมั่นคงมีแจ้งเตือนอยู่ตลอดเวลา ให้มีความระมัดระวัง กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ อาจจะก่อเหตุครั้งใหม่ โดยอาจจะประกอบวัตถุระเบิด ซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ และ รถจยย. เพื่อเตรียมก่อเหตุร้ายในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา อีกครั้ง หวังแสดงศักยภาพ และช่วงชิงการเป็นผู้นำขบวนการก่อความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้
ส่วนทางเข้าของหน่วยงานต่าง ๆ หรือ สถานที่ราชการ โดยเฉพาะทางเข้าภายในศาลากลางจังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.)
มีการตรวจค้นรถยนต์ และ รถจยย. ของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานภายในศาลากลางอย่างละเอียด เพราะเกรงว่ากลุ่มคนร้ายอาจจะนำระเบิด ซุกซ่อนไปผูกติดกับรถยนต์ของเจ้าหน้าที่เพื่อก่อเหตุในสถานที่ราชการ ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารมีการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่รอบนอกเขตเทศบาลนครยะลา พร้อมร่วมทำการตรวจค้นรถยนต์ และรถจยย. รวมทั้งบุคคลเป้าหมาย ที่อาจแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุร้ายในเขตเทศบาลนครยะลา รวมทั้งในพื้นที่ต่างอำเภอ ก็มีการกำชับให้มีการตรวจเข้มรถยนต์ทุกชนิดเช่นกัน
สำหรับความคืบหน้าด้านคดีที่คนร้ายลอบวางคาร์บอมบ์ 2 จุด กลางเมืองยะลานั้น พล.ต.ต.พีระ เปิดเผยว่า
ขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลา ที่ 11 อ.เมืองยะลา เจ้าหน้าที่ทหารพราน 41 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานที่ 10 จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดยะลา และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กว่า 150 นาย ทำการปิดล้อมตรวจค้นภายในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.บันนังสาเร็ง อ.เมือง หลังมีพยานที่่เชื่อถือได้ แจ้งเบาะแสว่า รถยนต์คาร์บอมบ์ ทั้ง 2 คัน ออกมาจากโรงเรียนดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจค้น ก็พบร่องรอยของสติกเกอร์ ที่ถูกแกะออก มีตัวเลขตรงกับป้ายรถยนต์ที่ใช้ติดที่รถยนต์คาร์บอมบ์ เศษสายไฟ แผงวงจรไฟฟ้า แผงวงจรอิเลคทรอนิคส์ เศษเหล็กเส้นที่ตัดแล้วจำนวนหนึ่ง น็อตตัวผู้ - ตัวเมีย ปุ๋ยยูเรียจำนวนหนึ่ง และสีสำหรับแต่งรถยนต์ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานที่ 10 จ.ยะลา ได้ตรวจยึดสิ่งของทั้งหมด เพื่อนำไปตรวจสอบทางกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ และนำไปเปรียบเทียบดีเอ็นเอ ว่ามีส่วนตรงกันกับหลักฐานทั้งหมด ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์ ทั้ง 2 จุด หรือไม่อย่างไร หากพบว่ามีส่วนตรงกัน ก็ต้องมีการดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป
ส่วนกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุคาร์บอมบ์ ในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่มุ่งเป้าไปยัง กลุ่มของนายอิสมาแอ ระยะหลง หรือ อุซตาสโซ๊ะ แกนนำก่อเหตุรุนแรง
ระดับสั่งการ ที่สั่งการให้แนวร่วมในพื้นที่ ที่มีความชำนาญในการประกอบวัตถุระเบิด รวมตัวลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ สำหรับมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยก็มีความเข้มกว่าเดิม 2 – 3 เท่า ในการดูแลรักษาความปลอดภัยในย่านการค้า และ ในย่านชุมชน เพื่อป้องกันการก่อเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก