"จักรทิพย์" ระบุตรวจรถยนต์ใต้ "ลีการ์เดน" ครบแล้ว ไม่พบระเบิดซุกเพิ่ม แต่ยังต้องตรวจมอเตอร์ไซคอีก 300 คัน วอนประชาชนเข้าใจต้องวางมาตรการเข้ม
พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ให้ สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ทางสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ถึงกรณีคาร์บอมบ์ ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาว่าตามที่ ผบ.ทบ. ระบุว่าเป็นห่วงเรื่องรถ รถที่ห่วงคือรถที่หายจากระบบไป เราก็พยายามควบคุม แต่ลักษณะของเหตุระเบิดที่ ลีการ์เดน ทั้งนี้ตนก็วิเคราะห์ว่าเป็นวินาศกรรมซึ่งต่างจากการก่อการร้าย เพราะ การก่อการร้ายคือการต่อรองหรือขู่ก่อน ส่วนการก่อวินาศกรรมเราไม่สามารถคุมได้ 100%
พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย จากนี้ถ้ากำลังตำรวจไม่พอ ก็สามารถขอกำลังทหาร จาก มทบ.42 ตามคำพูดของ ผบ.ทบ. นอกจากนี้ให้ซอยพื้นที่รับผิดชอบให้แคบลง และมีชื่อผู้รับผิดชอบพื้นที่ปรากฏอยู่ แต่เมื่อทหารมาเยอะ ชาวต่างชาติก็อาจจะไม่เข้าใจเรา ซึ่งจะมีผลกระทบเป็นโดมิโน มีผลข้างเคียงไปหมด "มาตรการรักษาความปลอดภัยเบื้องต้นคงต้องทำเต็มที่ไว้ก่อนค่อยๆเบา หรือคงไว้เต็มที่ 3 เดือนก่อน ขณะที่การตั้งด่านตรวจ สกรีนรถ ก็ต้องขอทำความเข้าใจกับผู้ที่ใช้ถนนหนทาง อย่าได้ตำหนิเจ้าหน้าที่ เพราะเราต้องทำทั้งระบบ โดยสำรวจพื้นที่สุ่มเสี่ยง รวมทั้งต้องอ่านใจคนร้ายด้วย" พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าว
ทั้งนี้เมื่อถามถึงผู้ก่อเหตุที่ถูกระบุว่าชื่อ " เจะมะ วานิ" พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่า ขณะนี้พิสูจน์ว่ามีชื่อ "เจ๊ะมะ วานิ" ซ้ำกันสองคนแต่ต่างกันที่อายุ ส่วนจะเป็นคนไหนขอสงวนไว้ก่อน
ต่อข้อถามที่ว่ายังมีคาร์บอมบ์เหลืออีกหรือไม่ พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่าก็เป็นเรื่องวิจารณ์กันไป แต่ขณะนี้เราให้อีโอดีไปเคลียร์แล้ว ชัดเจนว่าไม่มีวัตถุต้องสงสัยในรถคันใด อย่างไรก็ตามยังเหลือมอเตอร์ไซค์ อีก 300 คัน ที่ต้องสำรวจต่อ