ขยายเวลารับตัวมาซุดมาดำเนินคดี

วันนี้ ( 29 มี.ค.) เวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. รับผิดชอบงานด้านสอบสวน

เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเหตุระเบิด 3 จุดบนถนนสุขุมวิท เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมาว่า ได้รับการประสานงานจากอัยการของประเทศมาเลเซีย ต้องการขอเอกสารและพยานหลักฐานเพิ่มเติม ขณะที่พนักงานสอบสวนที่เดินทางไปประเทศมาเลเซียกลับมารายงานให้ พล.ต.อ.ปานศิริ ประวัต รอง ผบ.ตร. ทราบแล้ว และ พล.ต.อ.ปานศิริ ได้สั่งการให้เร่งรวบรวมหลักฐานส่งให้พนักงานอัยการมาเลเซีย เพื่อยื่นต่อศาลภายในเวลากำหนด เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอัยการมาเลเซียต้องการสอบถามเพิ่มเติมในประเด็นใด พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า รายละเอียดอยู่ในสำนวนการสอบสวน ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เบื้องต้นได้รับการประสานจากสำนักงานอัยการสูงสุดและทางการประเทศมาเลเซียเป็นอย่างดี

เมื่อถามว่าทางประเทศอินเดียต้องการให้ตำรวจสากลออกหมายแดงกับนายมาซุด เซดากัส ซาเดส ในส่วนนี้จะมีผลกับการขอตัวของประเทศไทยหรือไม่

พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า น่าจะเป็นคนละส่วนกัน ประเทศไทยดำเนินการตามวิธีการส่งผู้ร้ายข้ามแดน และเป็นความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศไทยและมาเลเซีย โดยที่ผ่านมาประเทศไทยมีการให้ความร่วมมือกับมาเลเซียในหลายเรื่อง และครั้งนี้เป็นการใช้ช่องทางเรื่องความร่วมมือถ้าประเทศอื่นต้องการตัวจะต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทางการหรือศาลประทศมาเลเซีย

เมื่อถามว่าสิ่งที่ทำให้ประเทศมาเลเซียเชื่อได้ว่านายมาซุด เกี่ยวข้องกับคดีในประเทศไทยคืออะไร

พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า หลักฐานทางด้านพยานบุคคลและทางหลักนิติวิทยาศาสตร์ ที่ทางตำรวจมีพยานหลักฐานแน่นหนามากพอสมควร ส่วนระยะเวลาว่าจะได้ตัวนายมาซุด กลับมาเมื่อใดนั้น จะต้องดูเวลาตามกฎหมายของทางการประเทศมาเลเซีย ส่วนหลักฐานที่ทางประเทศมาเลเซียขอเพิ่มเติม จะส่งพนักงานอัยการไปหรือส่งเป็นเอกสาร พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า อยู่ระหว่างการรวบรวม และคาดว่าน่าจะส่งได้เร็ว ๆ นี้ เช่นเดียวกับสำนวนคดีขณะนี้ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว.