สาวพิการทางสมอง วัย 37 ปี นั่งเฝ้าศพแม่วัย 63 ปี เสียชีวิตอยู่ในห้องพัก ภายในคอนโดมิเนียมย่านคลองหลวง มาแล้ว 4 วัน สภาพผอมโซ๋ไม่ได้กินอาหาร ตร.สันนิษฐานสาเหตุการตายเกิดจากโรคหัวใจกำเริบ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 มีนาคม ร.ต.ท.วิจิตร พินิชสอน ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธีานี
ได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่า มีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากห้องพักในคอนโดมิเนียม เมืองแก้วมุณี ตั้งอยู่ข้างวัดธรรมกาย ม.3 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง ซึ่งสงสัยว่าน่าจะมีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในห้องพัก จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย กำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู แพทย์เวรชันสูตรพลิกศพจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์คลองหลวง และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุพบว่า เป็นตึกอยู่ภายในคอนโดมิเนียมเมืองแก้วมุณี สูงประมาณ 6 ชั้น โดยห้องที่เกิดเหตุนั้นอยู่ชั้นล่าง
เลขที่ห้อง 4/117 ของตึกทวีบุญ ซึ่งประตูห้องถูกล็อคกุญแจจากด้านใน ไม่สามารถเปิดเข้าไปได้ โดยมีเสียงโทรทัศน์ที่เปิดอยู่ดังออกมาจากในห้อง และมีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากในห้อง เจ้าหน้าที่จึงทำการเคาะประตูห้องเรียก แต่ก็ไม่มีเสียงตอบออกมา จึงได้ให้แม่บ้านนำกุญแจสำรองมาไขเปิดประตูห้องดังกล่าว ก็ถึงกับผงะ เมื่อกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาอย่างรุนแรง และพบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสวมเสื้อผ้าสีขาวนอน สภาพศพนอนหงายอยู่บนที่นอน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมาคือ นางนิชประภา โชตนากร อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/2 ม.7 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี คาดว่า เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 4 วัน และใกล้กันที่มุมห้องยังพบหญิงสาวท่าทางไม่สมประกอบรูปร่างผอมโซนั่งกอดเข่าอยู่ที่มุมห้อง ทราบชื่อคือ น.ส.หันสา โชตนากร อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นบุตรสาวของผู้เสียชีวิต มีสติไม่สมประกอบ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวออกมาจากจุดเกิดเหตุนำส่ง รพ.ธรรมศาสตร์คลองหลวง เพื่อรักษาอาการ
จากการสอบสวน นางราตรี เปลี่ยนกะสันต์ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นแม่บ้านประจำอาคารตึกทวีบุญ กล่าวว่า
เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังทำความสะอาดอยู่ภายในตัวอาคารก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากห้องดังกล่าว แต่กลิ่นไม่รุนแรงเหมือนวันนี้ จึงไม่ได้สนใจอะไร เพราะได้ยินเสียงโทรทัศน์ดังออกมาจากในห้อง จนกระทั่งวันที่ 26 มี.ค.นี้ ตนมาทำความสะอาดตามปกติ ก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาซึ่งกลิ่นรุนแรงกว่าครั้งก่อนมาก แต่ก็ยังได้ยินเสียงโทรทัศน์ดังออกมาจากภายในห้องเหมือนเดิม ด้วยความสงสัยตนจึงได้ทำการเคาะประตูเรียกแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา จึงคิดว่าคนที่อยู่ภายในห้องนี้อาจจะเป็นอะไร จึงได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยมาตรวจสอบดังกล่าว
ด้านพระณัฐวุฒิ โชตินากร ซึ่งเป็นพระลูกวัดของวัดธรรมกาย และเป็นลูกของผู้เสียชีวิต ให้การว่า อาตมาเป็นลูกของผู้เสียชีวิต
ส่วนผู้หญิงที่พบในห้องอีกคนนั้นเป็นน้องสาวของอาตมา และมีอาการสติไม่สมประกอบมาตั้งแต่กำเนิด ส่วนโยมแม่ป่วยเป็นโรคเบาหวานท และหัวใจ ตนพามาพักอาศัยเพื่อจะได้ดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเช่าห้องพักอยู่ที่คอนโดดังกล่าว ซึ่งอาตมาติดกิจนิมนต์ที่ จ.กาญจบุรี หลายวัน จึงไม่ได้แวะมาดูโยมแม่และน้องสาว จนกระทั่งมาทราบข่าวจากเจ้าหน้าทีตำรวจว่า โยมแม่เสียชีวิต
ร.ต.ท.วิจิตร พินิจสอน ร้อยเวรสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิเหตุในเบื้องต้นสันนิฐานว่า ผู้ตายนั้นมีโรคประจำตัว คือ โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน ซึ่งอาการอาจจะกำเริบจนช็อคเสียชีวิต ส่วนบุตรสาวนั้นสติไม่สมประกอบมาตั้งแต่กำเนิด จึงนึกว่ าแม่นอนหลับ ไม่รู้จะทำอย่างไร ทำอะไรไม่เป็นจึงได้นั่งเฝ้าศพแม่ทั้งที่ไม่ได้กินอะไรมา 4 วัน ร่างกายจึงดูซูบผอม