ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 15 มี.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า
นายเอกรัตน์ กนกวรรณกรณ์ อายุ 60 ปี เสี่ยร้านทองเยาวราช สาขาบิ๊กซี จ.อุบลราชธานี อยู่บ้านเลขที่ 15/11 ถนนธรรมวิถี 4 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี เพื่อให้เร่งดำเนินการติดตามรถแท็กซี่สีชมพู ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน โดยให้การว่าลืมกระเป๋าทองรูปพรรณน้ำหนัก 9 กิโลกรัม รวมกว่า 400 บาท มูลค่ากว่า 10 ล้านบาทไว้ภายในรถแท็กซี่คันดังกล่าว เย็นวันที่ 13 มีนาคม 2555 จากนั้นแจ้งความไว้ที่ สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี แต่หลังจากวันนั้นก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากคนขับรถแท็กซี่ หรือความคืบหน้าจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด จึงเดินทางเข้าพบและให้รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมในการสืบสวนและติดตาม
นายเอกรัตน์ เล่าว่า ตนเองพร้อมภรรยา เดินทางมาจากจ.อุบลราชธานี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2555 และพักอยู่กับมารดากับน้องในกทม.
จากนั้นคุยวางแผนกับภรรยาว่าจะเดินทางไปซื้อทองและจะเดินทางไปหาน้องชายที่เป็นเสี่ยเขียงหมู อยู่ที่ตลาดสี่มุมเมือง จ.ปทุมธานี เพื่อให้น้องชายขับรถไปส่งที่สนามบิน กระทั่งเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 13 มีนาคม 2555 เวลาประมาณ 17.00 น. ที่ผ่านมา เดินทางไปซื้อทองรูปพรรณที่ย่านเยาวราช น้ำหนักรวม 9 กิโลกรัม จำนวนเนื้อทองกว่า 100 รายการ รวมกว่า 400 บาท มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท แล้วโบกรถแท็กซี่ จากแยกไฟแดง SAB ถนนเจริญกรุง เพื่อว่าจ้างให้ไปส่งที่ตลาดสี่มุมเมือง จ.ปทุมธานี โดยเดินทางมาพร้อมด้วยกับนางสุรัตน์ กนกวรรณากรณ์ อายุ 58 ปี ภรรยา โดยที่ตนนั่งหน้าคู่กับคนขับ และได้วางกระเป๋าแบบถือ ที่ภายในบรรจุทอง วางไว้ที่พื้นรองเท้าด้านหน้า ส่วนภรรยาของตนนั่งอยู่ที่นั่งด้านหลัง พร้อมด้วยกระเป๋าเสื้อผ้าแบบถือ อีก 2 ใบ และเมื่อมาถึงที่หมายหน้าตลาดสี่มุมเมือง ตนจ่ายค่ารถให้กับคนขับแท็กซี่ จากนั้นลงจากรถโดยลืมหยิบกระเป๋าทองที่วางไว้ที่พื้นรองเท้าด้านหน้า เพื่อรีบลงไปช่วยภรรยาถือกระเป๋าเสื้อผ้าเพราะเห็นว่าภรรยาป่วยเกรงจะถือไม่ไหว เมื่อลงมาจากรถกันแล้วจึงนึกได้ว่าลืมหยิบกระเป๋าทองลงจากรถ จึงรีบเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และประสานกับจส.100 ให้ช่วยเร่งประกาศหากระเป๋าใบดังกล่าว
ด้านพ.ต.อ.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผกก.สภ.คูคต จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า
สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนแบ่งกำลังกันแยกย้ายตรวจสอบหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ตลอดเส้นทางที่ผู้เสียหายให้การ เพื่อเร่งสืบสวนว่าเป็นรถแท็กซี่ของบริษัทฯใด หมายเลขทะเบียนใด เพื่อติดตามตัวคนขับมาสอบสวนหาทรัพย์สินที่เป็นทองรูปพรรณ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาทมาคืนให้กับผู้เสียหาย หากคนขับแท๊กซี่ทราบเรื่องแล้วขอให้นำทรัพย์สินมาคืนให้กับเจ้าของ หรือแจ้งประสานติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต หรือที่เบอร์มือถือพ.ต.อ.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผกก.สภ.คูคต จ.ปทุมธานี 081-1661818 หรือเบอร์โทรศัพท์นายเอกรัตน์ฯ 080-0539579
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
