ต่อมาเวลา 11.15 น. พล.ต.ท.วินัย ทองสอง
พล.ต.ต.พิสิฎฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.น.1 พ.ต.อ.จักรภพ สุคณธราช ผกก.สน.ชนะสงคราม เปิดแถลงการเข้ามอบตัวของนายสุพจน์ ช(ใส่เสื้อโปโลสีดำ) และนายสุพัฒน์ (ใส่เสื้อยืดสีดำ)
พล.ต.ท.วินัยกล่าวว่า นายสุพจน์และนายสุพัฒน์ ยอมรับว่าได้ก่อเหตุทำร้ายนายวรเจตน์ พนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย ส่วนจะบาดเจ็บมากเท่าใดนั้นต้องรอผลทางการแพทย์
ผู้สื่อข่าวถามถึงมูลเหตุผู้ต้องหาทำร้ายนายวรเจตน์ พล.ต.ท.วินัยกล่าวว่า เป็นเรื่องของความเห็นต่างกัน ทั้งสองคนมีอาชีพและเพิ่งเดินทางมาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์เป็นครั้งแรก มารอตั้งแต่เช้าเพราะคิดว่าอาจารย์วรเจตน์สอนเช้า ไม่รู้ว่าที่มหาวิทยาลัยมีสอนตอนค่ำด้วย
เมื่อถามว่า ขอถามผู้ต้องหาได้หรือไม่ พล.ต.ท.วินัยกล่าวว่า ต้องขออนุญาตว่าอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นฝั่งตรงข้ามสาดไปสาดมา เมื่อสักพักก็คุยกับน้องทั้งสองคนแล้ว เรื่องความเห็นต่างและบอกว่าอยู่ฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ไม่ดี เอาสังคมให้ดีดีกว่า เอาเป็นว่ารับสารภาพเพราะความเห็นต่าง
เมื่อถามว่า มีใครจ้างมาหรือไม่ พล.ต.ท.วินัยกล่าวว่า ไม่มี ขชได้ซักถามแล้วว่าเคยอยู่กลุ่มไหนหรือเคยมีกิจกรรมทางการเมืองหรือไม่ ผู้ต้องหาบอกว่าไม่สังกัดกลุ่ม ไม่ชอบทั้งเหลืองหรือแดง
จากนั้น พล.ต.วินัย เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวได้ซักถาม นายสุพัฒน์ โดยกล่าวถึงเหตุที่เข้าไปทำร้ายนายวรเจตน์ ว่า "ไม่พอใจ"
เมื่อถามว่า คิดมาจากบ้านหรือเตรียมตัวอย่างไร นายสุพัฒน์ กล่าวว่า มีความเห็นต่างคือไม่เห็นด้วยกับคณะนิติราษฎร์ที่เคลื่อนไหวมาตรา 112
ต่อข้อถามว่าอยากพูดอะไรอีกหรือไม่ นายสุพัฒน์กล่าวว่า "อยากเตะนักข่าว" ทำให้ พล.ต.พล.ต.ท.วินัย ตัดบทว่า พอแล้ว
แต่นักข่าวยังซักถามต่อว่าทำอาชีพอะไร นายสุพจน์กล่าวว่า "ค้าขาย ขายเสื้อ ขายน้ำหอม" ทำให้ พล.ต.ท.วินัย กล่าวย้ำอีกครั้งว่า พอแล้ว ไม่เช่นนั้นจะทะเลาะกันเปล่าๆ ส่วนกรณีของอาจารย์ไปพบแพทย์แล้ว อาจารย์ไมได้ร้องขอความคุ้มครอง แต่ทางตำรวจจะคอยป้องกันไม่ให้มีเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พันบาท ก่อนนำตัวกลับไปที่ สน.ชนะสงคราม เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนนำตัวส่งฟ้องศาลแขวงพระนครเหนือต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ทั้งสองคนทำงานเป็นการ์ดที่ผับแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี
นายสุพัฒน์ เคยถูกดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย ที่ สน.สายไหม สน.ดอนเมือง และสภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ในวันเกิดเหตุผู้ต้องหามารอนายวรเจตน์ นานแล้วกำลังจะกลับ นายวรเจตน์ ออกมาพอดีจึงก่อเหตุ ตำรวจสอบถามว่าเคยมาร่วมเผาหุ่นนายวรเจตน์ ก่อนหน้านี้หรือไม่ ทั้งสองคนปฏิเสธ