จากกรณีดาราสาวนางแบบสาว น.ส.พิลาวรรณ อารีรอบ อายุ 29ปี หรือที่รู้จักในวงการ "หมวย แม็กซิม"
อดีตคนเคยรักของนักร้องหนุ่มเจ้าของบทเพลงรสปูอัด "ฮาเวิร์ด หวัง" ที่ฝ่ายหญิงออกมาแฉว่าถูกฝ่ายชายบังคับให้ทำแท้งที่คลินิคชื่อดังแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท อย่างไรก็ตามภายหลังจากเกิดเรื่องฝ่ายสาวได้เก็บความทุกข์ในจิตใจจนเกินจะแบกรับไหวพร้อมกับสารภาพว่าไปทำแท้งจริง พร้อมกับเดินทางให้ปากคำกับพ.ต.อ. สุพัชร พึ่งพวง ผกก.สด.บชน.ถึงเรื่องดังกล่าว ขณะที่ฝ่ายนักร้องหนุ่มแอ่นอกยอมรับว่าเคยพาอดีตคนเคยรักไปทำแท้งจริง โดยอ้างว่าไม่รู้ว่าความผิดพร้อมกับยินดีเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 ก.พ. พ.ต.อ.ชนิน วัชรปาณีกูล ผกก.สน.ลุมพินี เปิดเผยว่า
ตนได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนขออนุมัติหมายศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อเข้าตรวจคสอบคลินิกภายใน ซอยสุขุมวิท 12 หลังน.ส.พิลาวรรณ หรือหมวย กล่าวอ้างว่าเปิดเป็นสถานที่ทำแท้งเถื่อน โดยทางกองกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี บชน. ได้ส่งสำนวนการสอบปากคำนางสาวพิลาวรรณ เมื่อวันที่25 ก.พ ที่ผ่านมา มามอบให้ ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ลุมพินีได้ประสานกับกระทรวงสาธารณะ ร่วมตรวจสอบสถานที่คลินิคดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตามในส่วนของกระทรวงสาธารณะสุขจะทำหน้าที่ตรวจสอบในเรื่องใบอนุญาตที่ตั้งสถานประกอบการว่าถูกต้องหรือไม่
ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ลุมพินี จะตรวจสอบทางเวชทะเบียน รายชื่อและวันที่ น.ส.วิลาวรรณ เดินทางมาทำแท้งว่ามีการบันทึกไว้ตรงกับคำให้การหรือไม่ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือเชิญตัวน.ส.วิลาวรรณ มาให้ปากคำเพิ่มเติม ในช่วงเวลา 13.00 น.ของวันที่ 29 ก.พ. ส่วนนายฮาเวิร์ด หวัง แฟนหนุ่ม ยังไม่มีการเชิญตัวเข้ามาให้การแต่อย่างใด อย่างไรก็ดีสำหรับโทษของผู้ที่ยินยอมทำแท้ง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พันบาท และสถานที่เปิดทำแท้งเถื่อน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ส่วนผู้สนับสนุน มีโทษ 2 ใน 3
ต่อมาเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.ชนิน พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปิโยรส กัณหะสิริ สว.สส. และนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารมว.สาธารณะสุข
ได้นำหมายศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 55/2555 ลงวันที่ 28 ก.พ. 2555 เข้าตรวจค้นสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน คลีนิคชุมชนเวชกรรมหรือคลีนิคมีชัย ภายในซอยสุขุมวิท 12 เลขที่ 6 เขตคลองเตย โดยมีนายบุญกิต กงทองลักษณ์ เจ้าของสถานพยาบาลดังกล่าว และเจ้าหน้าที่ของทางสถานพยาบาล ให้การต้อนรับและเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดขึ้นไปบนอาคาร โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนขึ้นไปสังเกตการณ์และทำข่าว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ก่อนจะพาเจ้าหน้าที่เดินไปยังอาคารคลินิกซึ่งอยู่ใกล้กัน อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานอาคารคลินิกดังกล่าวที่ตำรวจและทางเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขขึ้นไปตรวจสอบนั้น เป็นอาคาร 3 ชั้น ชั้นละประมาน 6 ห้อง เป็นลักษณะเหมือนสถานพยาบาลทั่วไป
ภายหลังจากตรวจสอบ พ.ต.อ.ชนินเปิดเผยว่า ในส่วนของตำรวจได้เข้าตรวจสอบหาพยานหลักฐาน โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทางผู้บริหารของคลินิก
จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบเวชระเบียน หรือประวัติการรักษาของน.ส.พิลาวรรณ เป็นไปได้ว่าอาจมีการแจ้งชื่อนามสกุลปลอม ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางตำรวจสน.ลุมพินี ได้ทำหนังสือเชิญตัวน.ส.พิลาวรรณ มาสอบปากคำเพิ่มเติม ว่าใช้ชื่อนามสกุลใดไปใช้บริการคลินิกดังกล่าว
ทางด้านนายพสิษฐ์ เปิดเผยว่าเป็นการเข้าตรวจตามพรบ.สถานพยาบาล จากการตรวจสอบพบว่าสถานพยาบาลดังกล่าว
มีการขอใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฏหมาย มีหลักฐานยืนยันเลขที่ 10101051852 โดยมีกระทรวงสาธารณะสุขเป็นผู้ควบคุมดูแล แต่จากการตรวจสอบการเก็บประวัติเวชระเบียนของผู้รักษา พบว่าสถานบริการดังกล่าวมีความผิดในการจัดเก็บเวชระเบียนของผู้รักษาไม่ถูกต้อง โดยมีโทษจำคุกปรับไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน2หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพราะตาม พรบ.สถานพยาบาลปี 2541 ระบุว่าสถานพยาบาลจะต้องเก็บประวัติผู้รักษาไว้ 5 ปี
นอกจากนี้จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของทางคลินิกทราบว่านายมีชัย วีระไวทยะ ผู้ก่อตั้งและเจ้าของคลีนิคดังกล่าว ได้เดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าคลีนิค ได้ปิดทำการหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากคลินิกปิดทำการวันเสาร์-อาทิตย์ ตามปกติอยู่แล้ว