ตรวจรถ จยย.ต้องสงสัยพัวพันบึ้ม

ตรวจรถ จยย.ต้องสงสัยพัวพันบึ้ม

เมือเวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) เดินทางมาที่กองบงคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1)

เพื่อตรวจสอบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ ดำแดง หมายเลขทะเบียน กนต 648 อ่างทอง ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด 3 จุด บริเวณซอยสุขุมวิท 71 เนื่องจากมีพยานระบุว่าเคยเห็นชายชาวอิหร่านที่เคยเช่าห้องสูทหรู อาคารเพชรบุรีสวีท ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน เป็นพาหนะ โดยคันแรกคือรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ เอส 100 สีน้ำเงินคาดเทา ทะเบียน มนม กรุงเทพมหานคร ถูกพบไปจอดทิ้งไว้ที่หน้าร้านเอเชียการไฟฟ้า ระหว่างซอยปรีดีพนมยงค์ 29-31 ส่วนอีกคันเป็นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นมีโอ คันที่ตรวจสอบพบล่าสุด

พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผบก.น.1 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ดินแดง ได้รับแจ้งจากคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างย่านดินแดง ว่าพบรถต้องสงสัยคันดังกล่าว จอดทิ้งไว้ที่บริเวณปากซอยบุญอยู่ ข้างป.ป.ส.ดินแดง ใกล้กับโรงแรมมิตรภาพเทียร่า แขวงและเขตดินแดง เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบและยึดมาไว้ที่สน.ดินแดง เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งพยานที่พบให้การว่าเห็นรถคันดังกล่าวจอดอยู่ประมาณ 3 วันแล้ว ไม่มีใครมาขี่ไป ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าเจ้าของรถชื่อนายสมพร กล้าหาญ อยู่บ้านเลขที่ 12/1 หมู่ 8 ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง แต่เบื้องต้นพบว่าได้ขายและโอนลอยไปแล้ว จึงอยู่ระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่พฐ.และอีโอดี ได้ทำการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะส่งมอบของกลางให้กับพนักงานสอบสวนสน.คลองตัน ต่อไป

ต่อมา พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รรท.รอง ผบช.น. พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ รรท.ผบก.น.1 ขึ้นไปตรวจสอบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว โดยพล.ต.ท.วินัย เปิดเผยว่า สำหรับรถจักรยานยนต์คันนี้ พบว่านายโมฮัมหมัด ฮาซาอี ผู้ต้องหาชาวอิหร่าน ที่ถูกจับที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซื้อต่อมา ภายหลังนายสมพร ได้ทำการโอนลอยไว้ โดยหลังจากนี้กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) และกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) จะทำการตรวจสอบหาหลักฐานก่อนส่งให้พนักงานสอบสวน

จากนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้ฯ และพฐ. ได้ทำการตรวจสอบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เบื้องต้นจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีหลักฐานใดๆ ภายในรถ เจ้าหน้าที่ พฐ. จึงทำการเก็บลายนิ้วมือแฝง เพื่อนำมาหาหลักฐานประกอบในสำนวนต่อไป