ปคบ.รวบแก๊งเงินกู้นอกระบบ

ปคบ.รวบแก๊งเงินกู้นอกระบบ รวม 12 คน พร้อมยึดของกลาง ได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 40/2278 และเลขที่ 40/2280 หมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 ซอย 8/8 ถนนสามัคคี ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี

กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิด เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ไพฑูรย์ คุ้มสระพรหม รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ถาวร ดุลยวิทย์ ผกก.2 บก.ปคบ.แถลงข่าวจับกุม นายฉัตรรัตน์ โอภาชาติ อายุ 25 ปี นายนคร ประวาสุข อายุ 18 ปี นายไกรศักดิ์ แก้วจำกา อายุ 21 ปี นายอานุภาพ อุ่นอก อายุ 23 ปี นายปะการิน นนทะสี อายุ 18 ปี นายธวัชชัย นาคสัมฤทธิ์ อายุ 24 ปี นายวิษณุวัฒ สิทธิยุทธ อายุ 28 ปี นางธัญญพัทธ์ นันทโชติวิวัฒน์ อายุ 39 ปี นายทรงกรด แสงจันทร์ อายุ 24 ปี นายจักรกฤษณ์ เย็นสำราญ อายุ 22 ปี นายนิวัติ ละม้ายนิล อายุ 21 ปี และ น.ส.วาสนา มาฆะสิทธิ์ อายุ 35 ปี รวม 12 คน พร้อมกันนั้นได้ยึดของกลาง ประกอบด้วย นามบัตร 4,543 ใบ สมุดบัญชีเรียกเก็บเงิน 1,274 เล่ม หลักฐานในการกู้ยืมเงิน 12 ชุด เครื่องคิดเลข 2 เครื่อง รถจักรยานยนต์ 7 คัน และหมวกกันน็อก 14 ใบ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง ได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 40/2278 และเลขที่ 40/2280 หมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 ซอย 8/8 ถนนสามัคคี ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี

พล.ต.ต.นิพนธ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เนื่องจากเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา มีผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกหนี้เงินกู้นอกระบบในพื้นที่ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.ว่าถูกกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่เก็บดอกเบี้ยเงินกู้ ข่มขู่และด่าทอทำให้เกิดความอับอาย หลังจากได้กู้เงินจากนายทุนเงินกู้โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อวัน เพื่อนำเงินดังกล่าวมาซ่อมแซมบ้านที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 2554 ซึ่งต้องใช้เอกสารสำเนาบัตรประชาชนและเซ็นสัญญากู้เงินที่ไม่มีการระบุรายละเอียดยอดเงินและดอกเบี้ยเอาไว้ ต่อมาชุดสืบสวน กก.2 บก.ปคบ.จึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเปิดบ้านเช่าอยู่ด้วยกัน ก่อนจะขับจักรยานยนต์ออกตระเวนเก็บดอกเบี้ยเงินกู้จากลูกหนี้ตามที่ได้รับแจ้ง จึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมของกลางทั้งหมดไว้ได้ดังกล่าว

สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่า ได้รับว่าจ้างจากนายทุนให้ออกหาลูกค้าเงินกู้และเก็บดอกเบี้ยรายวัน โดยจะแบ่งหน้าที่กันตั้งแต่ออกไปแจกใบปลิว นามบัตรพร้อมหมายเลขโทรศัพท์เพื่อหาลูกค้าเงินกู้ อีกส่วนหนึ่งก็มีหน้าที่จัดทำเอกสารและรับเงินจากนายทุน ซึ่งมีเงินหมุนเวียนประมาณ 10 ล้านบาทต่อเดือน นอกจากนั้นก็จะเป็นผู้รับหน้าที่ขับจักรยานยนต์ออกไปเก็บดอกเบี้ยเงินกู้ โดยเพิ่งเริ่มทำในช่วงที่เกิดวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ สำหรับลูกค้าก็จะเป็นพ่อค้าแม่ค้าและบุคคลทั่วไป ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 100 กว่าราย ซึ่งพวกตนจะได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 5,000 บาท รวมทั้งส่วนแบ่งจากดอกเบี้ยที่เก็บมาได้จากลูกหนี้

ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.ดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันปล่อยให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงิน โดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และขยายผลจับกุมไปยังกลุ่มนายทุนเงินกู้รายนี้มาดำเนินคดีต่อไป