สลดปล่อยฝูงตูบทิ้งทุ่งอดโซหิวตาย

เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านร้านค้าบริเวณวิหารพระมงคลบพิตร อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

ว่ามีสุนัขจรจัดถูกจับไปปล่อยในทุ่งนอกเมือง จนอดอาหารตายเป็นที่น่าสงสาร จึงได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง  พบว่าบริเวณทางเข้าหน้าวิหารฯ มีนายหัสนัย ธาระนัย อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199/22 หมู่ 8 ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา อาชีพค้าขายกำลังนำอาหารซึ่งเป็นข้าวผัดหม้อใหญ่มาให้กับสุนัขจรจัด ตามจุดต่างๆ มีสุนัขจำนวนมากกว่า 20 ตัว ส่วนใหญ่ผอมแห้งหนังติดกระดูก ส่งสายตาวิงวอนกระดิกหางอย่างน่าเวทนา

นายหัสนัย เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพค้าขายภรรยาขายของอยู่ที่ตลาดกลางเพื่อการเกษตร ริมถนนสายเอเชีย ต.หันตรา

พอเห็นสุนัขจรจัดถูกทอดทิ้งเหล่านี้รู้สึกสงสารมาก ตนและภรรยาจึงนำเงินส่วนหนึ่งมาทำอาหารให้กับมันได้กินกันนานนับสิบปีแล้ว โดยที่ตลาดกลางมีสุนัขที่ภรรยาให้อาหารประมาณ 30 ตัว ส่วนทิ่วิหารพระมงคลบพิตรมีประมาณ 20 ตัว นอกจากนี้ยังมีที่พระนอนใกล้บ้านตนอีก 30 ตัว ทุกเดือนต้องเจียดเงินเป็นค่าอาหารสุนัขเดือนละร่วมหมื่นบาท

นางจิราภรณ์ ทองหล่อ อายุ 60 ปี เจ้าหน้าที่วิหารพระมงคลบพิตร
 
เปิดเผยว่าทุกวันนี้ได้นายหัสนัยและภรรยาของนายหัสนัยทำอาหารมาเลี้ยงสุนัข ทางมูลนิธิฯให้เงินเดือนละ 2,500 บาท นอกนั้นเป็นเงินที่มีคนร่วมบริจาค ซึ่งที่ผ่านมาสุนัขเหล่านี้ไม่เคยกัดคนเลย แต่ยอมรับว่าอาจจะเดินเที่ยวรกหูตานักท่องเที่ยว แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง สิ่งที่อยากจะขอวิงวอนคือมีหน่วยงานแอบมาจับสุนัขจรจัดเหล่านี้ประจำ ที่ผ่านมาก่อนน้ำท่วมเคยจับไปหลายตัว ตนไปพบกลายเป็นสุนัขผอมโซอยู่ที่ทุ่งมะขามหย่อง ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งไม่มีอาหารกิน และยังพบบางตัวนอนตายเป็นซาก เห็นแล้วสลดใจ จึงอยากที่จะวิงวอนว่าถ้าหน่วยงานไหนจะจับไปตนไม่ได้ว่าอะไร อยากให้บอกว่าจะเอาไปที่ไหน เพื่อตนจะได้นำเงินไปบริจาคหรือนำอาหารไปให้ หรือหากไม่จับมันไปตนก็จะดูแลเรื่องอาหารการกินเอง ส่วนการสร้างที่อยู่ให้มันเป็นสัดส่วนคงทำได้ยาก

ทางด้าน พ.อ.อ.สุวัฒน์ สรรพโกศลกุล รองนายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา
 
เปิดเผยว่าปัจจุบันนี้ทางเทศบาลมีเพียงนโยบายในการที่จะควบคุมปริมาณของสุนัขจ
รจัด ด้วยการออกไปทำหมันและตระเวนฉีดยาป้องกันพิษสุนัขบ้า หากจำเป็นต้องมีการจับสุนัขจริงๆ ที่ผ่านมาจะนำไปปล่อยเอาไว้ที่บริเวณบ่อขยะ ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา  ยอมรับว่าไม่เหมาะสมเท่าที่ควร แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ส่วนการที่ในอนาคตอาจจะสร้างเป็นศูนย์พักพิงสุนัขจรจัดนั้น ก็อาจจะทำได้ แต่ต้องหารือกับหลายส่วน โดยเฉพาะคนใจบุญที่จะเข้าไปช่วยเหลือดูแลในเรื่องการบริจาคค่าอาหารด้วย