วันนี้ (16 .ก.พ) ที่รัฐสภา น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตส.ส.แพร่ พรรคไทยรักไทย พา น.ส.ปณิชา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ข้าราชการครูวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจ.พิจิตร เข้ายื่นเรื่องร้องทุกข์พร้อมหลักฐานภาพถ่ายแสดงร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายต่อ นางอรุณี ชำนาญยา ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ และผู้พิการสภาผู้แทนราษฎร กรณีถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดย น.ส.ปณิชา ระบุว่า ได้เริ่มเข้ารับราชการที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งในจ.พิจิตร ในปี 2548 แล้วได้ถูกผู้บริหารระดับสูงของวิทยาลัยดังกล่าวพยายามลวนลามทั้งทางร่างกายและวาจา ตนก็พยายามต่อสู้มาโดยตลอด
ต่อมาในปี 2552 ในวิทยาลัยเกิดเรื่องทุจริตจนสภาวิทยาลัย ตั้งกรรมการตรวจสอบและตนก็เป็นหนึ่งในกรรมการสอบ และผู้บริหารรายนี้ก็ได้ข่มขู่คุกคามให้ถอนตัว จนกระทั่งคืนหนึ่งตนได้ถูกนายพิเชษฐ์ มีแม่นวิทย์ ครูอัตราจ้างวิทยาลัยเดียวกัน บุกเข้ามาข่มขืน ทำร้ายร่างกายภายในห้องพัก แต่ตนได้ต่อสู้จึงลงมือไม่สำเร็จ จากนั้นได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าตำรวจ สภ.อ.โพธิ์ทะเล จ.พิจิตร ปรากฏว่าผู้บริหารระดับสูงของวิทยาลัยดังกล่าวได้พยายามประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วงเหนี่ยวคดีและได้ประกันตัวผู้กระทำความผิดออกไป พร้อมกันนี้ตนยังได้ร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาในวิทยาลัยดังกล่าว เพื่อตรวจสอบและเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่จนถึงปัจจุบันเรื่องก็ยังเงียบ
น.ส.ปณิชา กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตนได้ขอโอนย้ายกลับมารับราชการที่บ้านเกิด จ.นครสวรรค์ แต่ยังมีความพยายามที่จะกลั่นแกล้งจากบุคคลดังกล่าว โดยทำให้ได้รับเพียงการขอตัวมาช่วยราชการที่ จ.นครสวรรค์เท่านั้น แต่ผู้บริหารระดับสูงของวิทยาลัยรายนี้ ยังคงตามราวีและไปพูดจาต่อสาธารณะทั้งในที่ทำงานเก่าและใหม่ทำให้ตนได้รับความเสื่อมเสีย ทำให้การทำงานไม่ราบรื่น อย่างไรก็ตามสำหรับคดีพยายามข่มขืนนั้นศาลชั้นต้นได้ตัดสินจำคุก 1 ปีไม่รอลงอาญานายพิเชษฐ และอยู่ระหว่างการต่อสู้ในชั้นศาลอุทธรณ์
อย่างไรก็ตามนายพิเชษฐ์ ได้โทรศัพท์มาสารภาพกับตนว่าสาเหตุที่กระทำความผิดเนื่องจากถูกผู้บริหารรายดังกล่าวยั่วยุให้กระทำการ โดยบอกว่าแผนกที่นายพิเชษฐ์สังกัดจะได้รับผลกระทบจากการตั้งกรรมการสอบซึ่งมีตนเป็นสาเหตุสำคัญ และตนได้บันทึกคำสนทนาทางโทรศัพท์นี้ไว้เป็นหลักฐาน และนำไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจะเอาผิดผู้บริหารรายดังกล่าวด้วย แต่ทางตำรวจยังไม่พร้อมจะรับหลักฐาน
ด้านนางอรุณี กล่าวว่า กมธ. ขอให้ความมั่นใจว่า จะเร่งรัดดำเนินการให้เร็วที่สุด และจะหาความเป็นธรรมให้ได้ เพราะปัจจุบันมีข้าราชการและพนักงานผู้หญิงถูกล่วงละเมิดทางเพศจำนวนมาก แต่ก็มีน้อยคนที่จะกล้าหาญออกมาต่อสู้เช่นกรณีนี้