ไฟไหม้ป่าหลังศูนย์ราชการเชียงใหม่ วอดกว่า 100 ไร่ ปภ.ห่วงมลพิษทางอากาศ หลังข้าราชการสูดควันแล้วสองวัน เผยดับยากเหตุขยะงานกาชาด ถูกฝังกลบใต้ดินเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ส่วน ผวจ.สั่งหาตัวมือเผา
เมื่อวันที่ 13 ก.พ. เกิดเหตุไฟไหม้ป่าเป็นบริเวณกว้างด้านหลังศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้ต้นไม้ถูกเพลิงไหม้เสียหายเป็นพื้นที่กว่า 100 ไร่ โดยเหตุเกิดในช่วงบ่ายวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา ก่อนจะลุกลามเป็นวงกว้างเข้าใกล้อาคารสำนักงานพลังงานจังหวัดราว 100 เมตร และห่างจากอาคารศูนย์ราชการประมาณ 500 เมตร หลังเกิดเหตุรถดับเพลิงจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ และเทศบาลคำบลช้างเผือกรวม 6 คัน ได้เข้าสกัดเพลิงแต่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเพลิงจึงสงบลงในช่วงกลางดึก
แต่ปรากฏว่าในช่วงเช้าวันที่ 13 ก.พ. เพลิงได้ลุกไหม้ขึ้นอีกครั้งก่อนลุกลามขยายวงกว้างและควันจากไฟป่าได้ส่งผลกระทบกับข้าราชการและประชาชนในบริเวณศูนย์ราชการตลอดทั้งสองวัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้เด็ดขาด
นายคมสัน สุวรรณอำพา ป้องกันและบรรเาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ไฟป่าที่เกิดได้ทำให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศในบริเวณศูนย์ราชการ โดยสาเหตุของเพลิงไหม้ป่าครั้งนี้คาดว่าจะมาจากการเผาขยะในงานฤดูหนาวและกาชาดซึ่งจัดขึ้นในกลางเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขยะจำนวนมากเหล่านี้ได้ถูกไถฝังกลบรวมกับเศษกิ่งไม้ เมื่อทับถมประกอบกับสภาพอากาศที่แห้งแล้วจึงทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีซึ่งการดับเพลิงทำได้ยากเนื่องจากเชื้อเพลิงอยู่ใต้ดิน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปภ.เชียงใหม่ ได้ประสานขอสนับสนุนรถแบ๊กโฮจาก อบจ.เชียงใหม่ เพื่อทำการขุดเอาเชื้อเพลิงใต้ดินขึ้นมาก่อนใช้รถดับเพลิงดับเชื้อไฟทั้งหมด โดยคาดว่าจะสามารถจัดการต้นเพลิงใต้ดินได้ภายในช่วงเย็นวันนี้
นายคมสัน กล่าวด้วยว่า ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งให้ควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและหาตัวผู้ที่ลงมือเผาขยะมาดำเนินคดีซึ่งขณะนี้ ปภ.เชียงใหม่ กำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอยู่