รวบแล้วมือฆ่าเผาสาวเคเบิล นครปฐม!!

สกัดจับในโบกี้รถไฟ เผยที่แท้เป็นเพื่อนสมัยอนุบาล ที่สาวโทร.ตามมาอยู่เป็นเพื่อนเพราะมีคนมาทำร้าย

จากเหตุฆ่าเผา น.ส.ณิชมล หรือตู้ นิ่มเดช อายุ 22 ปี พนักงานนครปฐมเคเบิลทีวี ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 9 ก.พ. พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รอง ผบช.ภ.7 ได้เรียก ตร.ชุดสืบสวนที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมวางแผน เพื่อออกสืบหาตัวผู้ต้องสงสัยรายล่าสุด ซึ่งเป็นเพื่อนชาย ตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถม ที่พยานระบุว่าผู้ตายนัดให้มารับเวลา 10.00 น.

ด้านนายวีรวุฒิ นิ่มเดช และนางสุนีย์ นิ่มเดช บิดา-มารดาของผู้เสียชีวิต เข้าพบ พ.ต.อ.วัฒนา พิมพ์อัฐ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม
 
เพื่อขออนุญาตเข้าเก็บข้าวของทรัพย์สินของลูกสาวในห้องที่เกิดเหตุ โดยนายวีรวุฒิ และนางสุนีย์ บิดา-มารดา เผยว่า ทางเจ้าของห้องเช่าโทร.เร่งให้ญาติรีบไปเก็บข้าวของออกจากห้องเพราะผู้เช่าห้องรายอื่นกลัวผี จะปัดรังควาน ซึ่งทางผู้กำกับอนุญาตให้เข้าเก็บข้าวของของลูกสาวได้

นายวีรวุฒิกล่าวด้วยว่า เมื่อเช้าวันนี้ญาติซึ่งเป็นอาสะใภ้ผู้ตายได้มาเล่าให้นางสุนีย์ฟังว่า
 
เมื่อคืนที่ผ่านมาอาสะใภ้ฝันว่าน้องตู้ร้องไห้มาหาบอกว่าออกจากห้องที่เกิดเหตุไม่ได้ ซึ่งกำลังหารือกันว่าจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านไสยศาสตร์ไปทำพิธีเรียกวิญญาณลูกสาวกลับบ้านอีกครั้ง ลูกสาวเป็นคนดี แต่ข่าวที่ออกมากลับกลายเป็นว่าลูกสาวคบหาผู้ชายหลายคนพร้อมๆ กัน ตรงนี้ในฐานะพ่อแม่รู้สึกไม่ดีเลย ทำไมข่าวจึงออกมาอย่างนั้น ซึ่งต้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงค่ำวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ประสานกับตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี
 
เพื่อขอให้สกัดตรวจรถไฟที่มุ่งหน้าลงใต้ทุกขบวน โดยจากการตรวจค้นทำให้พบนายวีรพงษ์ เสถียรวีระภาพ อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 4 ต.ลำพญา อ.เมือง จ.นครปฐม ผู้ต้องสงสัยฆ่าเผาน.ส.ณิชมลได้ แล้วจึงนำตัวมาสอบสวน

รายงานข่าวแจ้งว่า ผลการสอบสวนผู้ต้องสงสัยให้การรับสารภาพ ว่าเป็นคนลงมือฆ่าน.ส.ณิชมลจริง โ

ดยก่อนเกิดเหตุผู้ตายเป็นคนโทรศัพท์มาหา เพื่อขอให้ตน ซึ่งรู้จักกับผู้ตายตั้งแต่เรียนอนุบาล และติดต่อคบหาให้คำปรึกษากันเรื่อยมา มาอยู่เป็นเพื่อน เพราะรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย เนื่องจากมีเรื่องขัดแย้งกับคนหลายกลุ่ม ด้วยเรื่องหึงหวงทางชู้สาว ประกอบกับวันเกิดเหตุเพื่อนร่วมงานที่เคเบิลทีวีโทรศัพท์มาบอกว่าอย่าไปทำงาน เพราะจะมีคนดักรออยู่ ทำให้น.ส.ณิชมลกังวลและขอให้มาอยู่ด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า คนร้ายสารภาพต่อว่า หลังจากที่เข้ามาที่ห้องผู้ตายตั้งแต่ช่วงสาย ก็เกิดอารมณ์ทางเพศ

อยากมีเพศสัมพันธ์ด้วย จึงลงมือปลุกปล้ำข่มขืน แต่น.ส.ณิชมลไม่ยินยอม พร้อมส่งเสียงร้อง จึงใช้หมอนอุดปากและจมูกจนเสียชีวิต จากนั้นจึงนำโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง กาแล็กซี พร้อมสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง ของผู้ตายไปด้วย

โดยโทรศัพท์นำไปขายที่ร้านในห้างบิ๊กซี นครปฐม ในราคา 2 พันบาท ส่วนสร้อยคอเอาไปขายที่ร้านทองในตลาด ได้เงิน 5 พันบาท
 
จากนั้นจึงย้อนมาที่ร้านเกมที่มาเล่นเป็นประจำ เพื่อชักชวนเพื่อนอีก 3 คน ไปช่วยกันเผาทำลายศพ ก่อนจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ จนเมื่อการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มเข้ามาใกล้จึงกังวลจนตัดสินใจหนีลงใต้ แต่ก็ถูกตำรวจสกัดจับได้เสียก่อน