แก๊งค้ากัญชาโหด ยิงจสต. ตายคาเครื่องแบบ

เมื่อเวลา 22.50 น.วันที่ 16 ม.ค. ร.ต.ท.ศุภภาษ จิตตรัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้งมีเหตุตำรวจถูกยิงเสียชีวิต บนถนนเลี่ยงเมือง หมู่ 7 ต.เหนือเมือง

จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ไปสอบสวนที่เกิดเหตุพร้อมนายพินิช พิชญกัลป์ ผวจ.ร้อยเอ็ด พล.ต.ต.วรนิต ทองมี ผบก. ภ.จ.ร้อยเอ็ด พ.ต.อ.พลศักดิ์ บรรจงศิริ รอง ผบก.ภ.จ.ร้อยเอ็ด พ.ต.อ.ณรงค์วิทย์ พ่วงเภตรา ผกก.สภ.อ.เมืองร้อยเอ็ด พ.ต.ท.ชัยพล พลเยี่ยม สว.สส. แพทย์ รพ.ร้อยเอ็ด

หมายเลข 4106 อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด จอดขวางริมถนน โดยมี ด.ต.จีรวัฒน์ ใหม่คามิ อายุ 55 ปี ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.6 ประจำรถคันดังกล่าวกำลังวิทยุขอกำลังเสริม ห่างกันเล็กน้อยพบรถกระบะนิสสัน ทะเบียน ณล 1109 กรุงเทพมหานคร ของคนร้ายจอดติดเครื่องแต่ไม่เปิดไฟ

ที่กระบะท้ายบรรทุกตู้แช่น้ำแข็ง 2 ใบ มัดด้วยเชือกอย่างแน่นหนา แต่ในรถไม่มีคนอยู่ ที่ประตูด้านขวาเปิดอ้าไว้ ส่วนฝั่งตรงข้ามถนนพบศพ จ.ส.ต.สิทธิพร จันทรังษี อายุ 37 ปี นอนตายจมกองเลือดทับกระบอกไฟฉาย มือขวามีปืน .38 วางอยู่ กระสุนถูกยิงไปแล้ว 3 นัด ตรวจสอบพบถูกยิงด้วยกระสุนไม่ทราบขนาดเข้ากลางหน้าอก 1 นัด

ด้านหน้าพบรองเท้าแตะ 2 คู่ กระเป๋าเสื้อผ้า 1 ใบ และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ตัวถังรถพบรอยกระสุนที่ขอบประตูด้านคนขับ 1 รูกับฝาน้ำมัน 1 รู ส่วนในตู้แช่น้ำแข็งพบกัญชาแท่ง 342 แท่ง ยัดทะนานเต็มตู้ทั้ง 2 ใบ เจ้าหน้าที่จึงอายัดของทั้งหมดไว้เป็นของกลาง

ขณะ ด.ต.จีรวัฒน์ขับรถวิทยุออกตรวจพร้อม จ.ส.ต.สิทธิพร ผ่านบริเวณสี่แยกถนนเลี่ยงเมือง พบรถกระบะคันดังกล่าววิ่งมาด้วยความเร็วจาก จ.มุกดาหาร จึงให้สัญญาณขอตรวจค้น แต่รถคันดังกล่าวกลับเร่งเครื่องหนี จึงรีบขับรถตามไปอย่างกระชั้นชิด

กระทั่งถึงที่เกิดเหตุ

ได้ขับรถปาดหน้าบังคับให้ จอด พบในรถมีคนร้าย 2 คน จากนั้น จ.ส.ต.สิทธิพรเดินไปที่รถเพื่อจะขอตรวจค้น แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดได้บังเกิดขึ้น เมื่อคนร้ายได้สับไกยิงทะลุกระจกรถใส่ผู้ตาย 1 นัด ถูกกลางหน้าอก หลังถูกยิง จ.ส.ต.สิทธิพรยังไม่สิ้นสติ ได้ชักปืนยิงใส่คนร้าย 3 นัด กระสุนถูกเพียงตัวถังรถ จากนั้นจ่าใจเด็ดล้มลงสิ้นใจตายอยู่ริมถนน

ส่วนแก๊งคนร้ายรีบ ทิ้งรถวิ่งหลบหนีไป ระหว่างเกิดเหตุ ด.ต.จีรวัฒน์นั่งคุมเชิงอยู่ในรถวิทยุ และไม่ทันช่วยเหลือเพื่อนคู่หู ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้วิทยุแจ้งไปยังพื้นที่ใกล้เคียงช่วยสกัดจับคนร้ายคาดว่าแยกย้ายกันหลบหนีทางรถโดยสาร พร้อมตรวจสอบทะเบียนรถของคนร้าย ทราบเจ้าของชื่อนายธีระ พาลึก อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/1 หมู่ 4 ต.บางทรายน้อย อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร และเจ้าของโทรศัพท์คือนายรังสี ทองเสาร์ อายุ 20 ปี บ้านอยู่ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น

ทราบว่าเห็นชายผู้ต้องสงสัย 2 คนแยกย้ายขึ้นรถประจำทางมุ่งหน้าไป จ.กาฬสินธุ์ จึงวิทยุแจ้งไปยัง พล.ต.ต.พิสัณห์ อาวีกร ผบก.ภ.จ.กาฬสินธุ์ แจ้งทุกท้องที่สกัดตรวจค้นรถโดยสารทุกคัน พร้อมแจ้งถึงรูปพรรณของผู้ต้องสงสัย กระทั่ง พ.ต.ท.พิทักษ์ อุทัยธรรม สว.(หน.) สภ.ต.โนนสูง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์

พร้อมกำลังตั้งด่านสกัดหน้าตู้ยามหัวนาคำ พบรถบัสสายอำนาจเจริญ-ขอนแก่น หมายเลขข้างรถ 289-5 วิ่งผ่านมา ขอตรวจค้นพบชาย 1 คนรูปพรรณสัณฐานตามที่แจ้ง นำตัวมาสอบสวนทราบชื่อนายรังสี ทองเสาร์ จึงจับกุมส่ง สภ.อ.เมืองร้อยเอ็ด

เป็นคนขับรถกระบะนั่งมา นายพงศทัศน์หรือสาม อินปาว อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ 7 ต.บางทรายน้อย อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร รับจ้างขนกัญชาจาก จ.มุกดาหาร ไปกรุงเทพฯ ราคา 2 หมื่นบาท โดยมีนายแจะกับนายหวาย ไม่ทราบนามสกุล ขับรถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ดนำหน้าไปก่อน

ส่วนคนที่ยิง จ.ส.ต.สิทธิพรจนเสียชีวิตคือนายพงศทัศน์หรือสาม หลังทราบดังนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขอหมายจับนายพงศทัศน์จากศาลทันที ล่าสุดทราบว่านายพงศทัศน์ไปโผล่ที่ตลาดจังหาร จ.ร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่ตามไปตรวจสอบแต่ไม่พบตัว

พล.ต.ท.ศุภวุฒิ สังข์อ่อน ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผบก.ทล. ไปสอบสวนผู้ต้องหาและตรวจที่เกิดเหตุ จากนั้น พล.ต.ต. วีระพงษ์เปิดเผยว่า จ.ส.ต.สิทธิพร เป็นตำรวจที่มีความประพฤติดี เพิ่งกลับจากช่วยราชการที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีครอบครัวและลูกแล้ว 2 คน คนโตอายุ 2 ขวบ คนเล็ก อายุ 4 เดือน

การเสียชีวิตครั้งนี้ถือเป็นการเสียสละในหน้าที่ จึงเสนอขอปูนบำเหน็จเลื่อนขั้น 5 ชั้นยศ เป็น พ.ต.ต. กับขอพระราชทานเครื่องราชติตราภรณ์ มงกุฎไทย (ตม.) เพื่อเป็นเกียรติแก่ครอบครัวและวงศ์ตระกูลด้วย พร้อมเงินช่วยเหลือจากส่วนต่างๆอีกประมาณ 1.2 ล้านบาท

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ