บึมทหารชุดลาดตระเวน ที่เจาะไอร้อง บาดเจ็บสาหัส 2

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (17 ม.ค.) ว่า เมื่อเวลา 11.30 น. ตำรวจสถานีตำรวจภูธร อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและกำลังทหารเข้าตรวจสอบเหตุระเบิดบริเวณเสาไฟฟ้า ริมถนนจารุเสถียร ใกล้กับหัวสะพานบ้านปาแเระรูโบ๊ะ ม.9 ต.มะรือโบออก อำเภอเจาะไอร้อง

ในขณะที่รถจักรยานยนต์ 6 คัน ของทหารชุดลาดตระเวน สังกัด ร้อย ร.1013 ฉก.31 จำนวน 12 นาย แล่นผ่านมา ซึ่งปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยในเส้นทางให้กับแพทย์เคลื่อนที่จากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 41 (นพค.41) บ้านเจาะวา อำเภอสุไหงปาดี ที่เข้าไปให้บริการรักษาชาวบ้านที่โรงเรียนบ้านบูเก๊ะตาโมง ตำบลบูกิต อำเภอเจาะไอร้อง

ตั้งแต่เช้าตรู่ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทหารบาดเจ็บ 2 นาย คือ พลทหารกอเดย์ หมานทัศน์ อายุ 21 ปี และพลทหารสัญญา ดาวเรือง อายุ 21 ปี ถูกนำส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ การตรวจสอบพบว่าคนร้ายใช้ระเบิดชนิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยสัญญาณโทรศัพท์มือถือ วางซุกไว้ในพงหญ้าข้างเสาไฟฟ้า

ส่วนที่จังหวัดยะลา มีรายงานด้วยว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ ของนายบุญธรรม บุปผาชาติ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านเลขที่ 14/33 ถนนผังเมือง ตำบลสะตงนอก อำเภอเมือง แรงระเบิดทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชิญตัวกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเช่าบ้านอยู่ติดกับบ้านเกิดเหตุไปสอบสวน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มอบหมายให้ นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี ผู้ตรวจราชการ สธ.เดินทางไปที่วัดยุโป ตำบลยุโป อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เพื่อร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพของนางเรืองรอง แก้วไกร อายุ 38 ปี ประธานอาสาสมัครสาธารณสุข ประจำตำบลตาเซะ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา

ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตพร้อมสามี คือนายพิณ คชทิน เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2550 ที่ผ่านมา โดยกระทรวงฯ ได้มอบเงินจำนวน 30,000 บาท ช่วยเหลือแก่ครอบครัวในเบื้องต้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

และให้นักจิตวิทยาดูแลด้านจิตใจแก่ครอบครัวของนางเรืองรอง ซึ่งมีแม่ พี่ และน้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุตรชายที่ยังเล็กอายุเพียง 6 ปีเท่านั้น โดยกระทรวงฯ จะให้การดูแลรักษาฟรีครอบครัวของนางเรืองรองตลอดชีวิต

นอกจากนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา ได้ประสานกับศูนย์เยียวยาจังหวัดยะลา เพื่อรับเงินช่วยเหลือจำนวน 200,000 บาท ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา

มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเสียชีวิต 8 คน อสม.เสียชีวิต 24 คน แม้จะต้องทำงานอย่างยากลำบาก อาสาสมัครสาธารณสุขในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งมีประมาณ 2,000 คน ก็ยังคงทุ่มเททำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่อย่างเต็มที่

ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จาก หนังสือพมพ์ไทยรัฐ