วันที่ 1 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการ "ปอกเปลือกข่าว"” ของสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครักประไทย
ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเปิดบ่อนการพนันในพื้นที่กรุงเทพฯ แห่งใหม่ พร้อมกับนำภาพมายืนยันในรายการด้วย โดยนายชูวิทย์ กล่าวว่า ภาพบ่อนใหม่ที่เตรียมเปิดนี้มีการจัดระบบกับวางอุปกรณ์แล้ว ด้วยระบบที่มาจากต่างประเทศ และมีการจัดรอบทดลองไปแล้วเตรียมเปิดเร็ว ๆ นี้ มีเครือข่ายกับคนมีสี มีบั้งที่ตำรวจเกรงใจคอยดูแลอยู่สาเหตุที่ต้องเปิดเผยกับสื่อมวลชนเกี่ยวกับข้อมูลเหล่านี้เพราะถ้าใช้วิธีให้ข้อมูลกับตำรวจก็จะใช้เวลานานกว่าจะไปตรวจสอบ พอสั่งลูกน้องให้ไปดูก็ข่าวรั่ว บ่อนก็รู้ตัวเสียก่อน กว่าจะไปถึงก็ปิดแล้ว และที่ผ่านมาข้อมูลบ่อน 22 แห่ง ได้ส่งให้ตำรวจไปแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ สน.บางเขน พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ
ได้เรียกประชุมตำรวจระดับผู้บังคับการและผู้กำกับในพื้นที่ บก.น.2 บก.น.5 และ บก.น.9 มารายงานข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบบ่อนการพนัน หลังจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประไทย ออกมาให้ข้อมูลว่ามีการเปิดบ่อนการพนันเกิดขึ้น
พล.ต.อ.สถาพร กล่าวว่า เบื้องต้น บก.น.2 ได้รายงานผลการตรวจสอบพบว่า มีสถานที่ที่เคยเปิดเป็นบ่อนการพนัน 3 แห่ง
ในพื้นที่ สน.คันนายาว และ สน.บางเขน สำหรับกรณี พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. ได้รายงานเบื้องต้นว่า จากการเข้าตรวจสอบตามสถานที่ที่ได้รับแจ้งว่าเป็นบ่อนการพนัน กลับพบเป็นเพียงสถานที่ว่างเปล่าเท่านั้น โดยได้ปิดตัวและเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ออกไปทั้งหมดแล้ว จึงต้องขอเวลาในการตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานอีกครั้ง แต่ข้อมูลจะขัดแย้งกับการตรวจสอบของขณะทำงานจเรตำรวจหรือไม่นั้นต้องมีการตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง ส่วนบ่อนที่อยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ได้มอบให้ พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู รองจเรตำรวจแห่งชาติ (สบ.9) เป็นหัวหน้าชุดในการตรวจสอบ และรายงานผลการตรวจสอบให้ทราบในวันที่ 2 ก.พ. นี้
ต่อข้อถามว่า บ่อนในเครือข่ายเฮียตือมีจำนวนเท่าใด พล.ต.อ.สถาพร เปิดเผยว่า ทราบว่ายังมีอยู่อีกจำนวนมาก
รวมถึงบ่อนในเครือข่ายของ ส.สมหมาย ด้วย ตามที่ข้อมูลของนายชูวิทย์ให้มา แต่อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งทั้งนี้บ่อนบางซื่อหรือบ่อนลอยฟ้า ถ้าพบว่ามีการกระทำผิดชัดเจนก็จะไปดำเนินการตรวจสอบจับกุมเช่นกัน