ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษจำคุก "ชูวิทย์" ของศาลชั้นต้นเป็น 3 ปี ในคดีหมิ่นประมาท พล.ต.อ.สันต์ รับส่วยอาบ อบ นวด พร้อมค่าปรับ 4.5 แสนบาท
วันนี้ (16มค.) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้
ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ในคดีที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 และพล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร.) ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ รองหัวหน้าพรรคพรรคชาติไทย เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาด้วยเอกสาร
ชูวิทย์ เพิ่มโทษจำคุก 3 ปี เสียดสีสันต์รับส่วยอาบนวด
สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 16 ก.ค.-28 ก.ค.46
นายชูวิทย์ ขณะได้เปิดเผยถึงเส้นทางส่วยอาบ อบนวด โดยได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนบริเวณ ถนนพิษณุโลก,ลานพระบรมรูปทรงม้าและให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ กล่าวหาว่า นายตำรวจยศ พล.ต.อ. ตัวสูง ๆ เรียกรับส่วยจากบ่อนพนัน และมีรายได้ปล่อยเงินกู้ในบ่อนพนันต่างประเทศ รวมทั้งมีหุ้นส่วนสถานบริการอาบ อบ นวดด้วย
ศาลอุทธรณ์
ได้ประชุมตรวจสำนวนและปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง แต่เนื่องจากการกระทำของจำเลย มีผลกระทบกระเทือนต่อสังคม ดังนั้นจึงเห็นควร พิพากษาแก้โทษจำเลย
จากที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกจำเลย 3 กระทง รวม 1 ปี 6 เดือน โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 4 ปี และปรับ 300,000 บาทนั้น ให้แก้โทษเป็นจำคุกจำเลย 3 กระทง กระทงละ 1 ปี รวมจำคุกจำเลยเป็น 3 ปี และให้ปรับกระทงละ 150,000 บาท 3 กระทงรวมเป็นเงิน 450,000 บาท
ส่วนที่ศาลชั้นต้นกำหนดเงื่อนไข
ห้ามจำเลยกล่าวถ้อยคำเป็นการโป้ปด เสียดสีบุคคลอื่น ต่อสาธารณชน ที่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นหรือสังคม และห้ามมิให้จำเลยกระทำผิดในฐานเดียวกันนี้อีกภายในกำหนด 2 ปี ซึ่งหากกระทำผิดซ้ำ ให้จำเลยจำคุกตามคำพิพากษานั้น ศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
ภายหลังนายชูวิทย์ ฟังคำพิพากษาแล้ว
ได้ยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัวต่อสู้คดีต่อไปพร้อมกับกล่าวยืนยันว่าไม่เคยกล่าวหา พล.ต.อ.สันต์ ให้เสียหาย เพียงแค่ติชมตำรวจในภาพรวม เพราะตำรวจมีจำนวน 230,000 คน
ไม่ได้ระบุว่าคนตัวสูงๆคือใคร พล.ต.อ.สันต์ เองก็เป็นผู้ใหญ่น่าจะมีเมตตา ตนยินดีที่จะกล่าวขอโทษ หากจะทำให้คู่กรณีสบายใจในชีวิตหลังเกษียณ
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ผู้จัดการออนไลน์