วันนี้ (19 ม.ค.) นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีลูกช้างที่ถูกเจ้าหน้าที่ยึดจากขบวนการล่าช้างได้ที่ ชายแดนไทย-พม่า ซึ่งขณะนี้อยู่ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง จ.ราชบุรี ว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 19 ม.ค. เจ้าหน้าที่จากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้างจะนำลูกช้างดังกล่าว ไปไว้สถาบันคชบาล องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) จ.ลำปาง ส่วนในเรื่องของขบวนการล่าช้างนั้น ตนได้มอบรายชื่อของนักการเมืองท้องถิ่นใน จ.กาญจนบุรี ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว จากนี้ก็ให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ตนยังได้รับรายงานว่ามีลูกช้างเพศผู้ อายุประมาณ 1 ปี ที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ตายลง โดยสภาพศพลอยอยู่ในหนองน้ำ ขณะนี้ได้ให้สัตวแพทย์เข้าไปตรวจสอบสาเหตุการตายว่าเกิดจากถูกยิงหรือพลัดตกลงน้ำจนจมน้ำตาย
นายดำรงค์ กล่าวอีกว่า กรณีข่าวระบุว่าตนจัดฉากและนำลูกช้างเลี้ยงมาแอบอ้างว่าเป็นช้างป่า
กำลังถูกชนกลุ่มน้อยลักลอบนำออกมาขายนั้น สงสัยคนพูดวิกลจริต คิดได้อย่างไรและเอาส่วนไหนคิด ตนจะยอมให้มีคนตายในเหตุการณ์ได้อย่างไร ใครจะไปทำอย่างนั้น พูดอย่างนี้คนที่ทำหน้าที่เขาก็เสียกำลังใจกันหมด ขอถามว่าเอาส่วนไหนของร่างกายคิด ยืนยันว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นแก๊งล่างช้างจริง
นายดำรงค์ กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าในส่วนคดีการเผาซากช้างที่อุทยานฯ แก่งกระจาน
ซึ่งมีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้าไปเกี่ยวข้องนั้น ขณะนี้ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ที่สำคัญตนกำลังจะคืนความเป็นธรรมให้กับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่ถูกย้ายเข้ามาประจำกรมอุทยานฯ ตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา ให้กลับเข้าไปทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานฯ แก่งกระจานในช่วงต้นเดือน ก.พ.ที่จะถึงนี้ เพราะนายชัยวัฒน์ ไม่ได้มีความผิดอะไร ขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่ถูกดำเนินคดีเผาช้างก็สิ้นสุดกระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว และก็ต้องเข้าสู่กระบวนการทางศาลต่อไป ถูกผิดก็ว่ากันไปตามกฎหมาย แต่หน้าที่ในการรักษาอุทยานฯ แก่งกระจานยังต้องดำเนินต่อไป เพราะสถานการณ์การล่าช้างและสัตว์ป่าในอุทยานฯ แก่งกระจานถือว่าหนักมาก
“ ที่สำคัญตั้งแต่เกิดเรื่องกรณีการฆ่าช้าง และผมได้ย้ายนายชัยวัฒน์ออกมาจากพื้นที่ ได้มีนักการเมืองพยายามฝากเด็กของตัวเอง ให้เข้าไปเป็นหัวหน้าอุทยานฯ แก่งกระจานแทนนายชัยวัฒน์ อย่างวันนี้ก็มีนักวิ่งให้นักการเมืองโทรศัพท์เข้ามาขอเป็นหัวหน้าอุทยานฯ แก่งกระจานถึง 2 ราย เพราะคิดว่าเป็นหัวหน้าอุทยานฯ แก่งกระจานแล้วจะทำงานง่าย ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจผิด สถานการณ์อย่างนี้ต้องใช้คนอย่างนายชัยวัฒน์และทีมงาน เพราะเป็นคนในพื้นที่ มีการข่าวดีมาก ถ้าคนอื่นไปทำแทนรับรองป่าหมด สัตว์หมด เพราะไม่รู้สภาพพื้นที่” นายดำรงค์ กล่าว