ย่างสดแหม่มยูเครน-คาบังกะโลเกาะเสม็ด

ไฟไหม้บังกะโลเกาะเสม็ด ย่างสดนักท่องเที่ยวสาวใหญ่ยูเครนดับสยอง ศพดำเป็นตอตะโก เพื่อนอีกคนรอดหวุดหวิด เผยก่อนเกิดเหตุพากันไปเที่ยวผับ ขากลับแวะซื้อยากันยุงมาจุดแล้วหลับ สะดุ้งตื่นกลางดึกเห็นเปลวไฟลุกไหม้ผนังข้างห้อง ต่างคนรีบวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่เหยื่อเคราะห์ร้ายเหยียบพื้นไม้ทะลุ ขาลงไปติดดึงขึ้นไม่ได้ ไฟคลอกร้องโหยหวนสิ้นใจคากองเพลิง นักท่องเที่ยววิจารณ์แซดขณะเกิดเหตุไม่มีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ มาช่วยเหลือ อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือก็ไม่มี

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 14 ม.ค. พ.ต.ท.ประสงค์ พุ่มห้วยรอบ สารวัตรเวร สภ.ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ได้รับการประสานงานจาก สภ.ต.ย่อยเกาะเสม็ดว่า เกิดเหตุไฟไหม้ที่บังกะโลอ่าวไผ่ ฮัท ห้องพักหมายเลข เอ 17 บริเวณอ่าวไผ่ บนเกาะเสม็ด จึงรายงานให้พ.ต.อ.ประกาศ พงษ์พานิช ผกก.สภ.ต.เพ ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบบรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศจำนวนมากกำลังยืนมุงดูบังกะโลหลังเกิดเหตุ ซึ่งถูกไฟไหม้จนเหลือแต่ซาก ตรวจสอบพบว่ามีผู้ถูกไฟคลอกไหม้ดำเป็นตอตะโก เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนางลีน่า วลาดิมิรอฟนา อายุ 43 ปี เป็นนักท่องเที่ยวชาวยูเครน เจ้าหน้าที่จึงกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณเพื่อป้องกันหลักฐานถูกทำลาย

จากการสอบปากคำนางไอดา ไปเอสกายา อายุ 44 ปี ชาวยูเครน เพื่อนของผู้เคราะห์ร้าย ให้การว่า ตนกับผู้เสียชีวิตเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.ปีที่แล้ว และเข้ามาพักที่บังกะโลแห่งนี้ ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุพวกตนออกไปเที่ยวผับบนเกาะ จนดึกจึงได้กลับมายังที่พัก และได้ไปซื้อยากันยุงมาจุด เพราะในที่พักมียุงรบกวนมาก จากนั้นตนกับเพื่อนก็หลับไป แต่สักพักก็ต้องตกใจตื่นเพราะได้ยินเสียงดังที่พื้นและผนังห้อง พบว่าไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงที่ข้างห้อง

ตนและผู้ตายจึงรีบวิ่งหนีออกมา แต่ปรากฏว่าผู้ตายเหยียบพื้นไม้แล้วพื้นเกิดพังลงไป ทำให้ขาไปติดอยู่ ตนจะวิ่งเข้าไปช่วยก็ปรากฏว่ามีคนมาดึงออกไป ตนพยายามจะวิ่งเข้าไปช่วยแต่ก็ไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของผู้ตายดังไปทั่วบริเวณ เป็นที่สยดสยองต่อนักท่องเที่ยวที่มาช่วยเหลือนับสิบคน ซึ่งได้พยายามช่วยกันนำน้ำมาดับไฟ แต่ก็ไม่ทัน บังกะโลถูกไฟไหม้เหลือแต่ซากส่วนร่างของผู้ตายถูกย่างสดเกรียมไปทั้งตัว

ภายหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ประกาศ พงษ์พานิช ผกก.สภ.ต.เพ พร้อมด้วยพ.ต.ท.ภักดี ศุภวิริยะกุล สารวัตรหัวหน้ากองวิทยาการ จ.ระยอง ได้เดินทางมาตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์เวร

ซึ่งได้เก็บหลักฐานโดยรอบบังกะโล และบริเวณกองเพลิงอย่างละเอียด แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติที่บ่งบอกว่าเป็นการวางเพลิงหรือฆาตกรรม แต่อย่างไรก็ตามจะต้องส่งศพเข้าไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง

พ.ต.อ.ประกาศกล่าวว่า จากการตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุเบื้องต้นไม่น่าจะเป็นการวางเพลิง เพราะเท่าที่สอบถามจากเจ้าของบังกะโล และผู้เห็นเหตุการณ์ น่าจะเกิดจากยากันยุงที่ผู้ตายซื้อไปจุดก่อนนอน แล้วอาจจะไปติดกับพื้นไม้ที่เป็นไม้เก่า ประกอบกับอากาศแห้ง ลมแรง ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตามต้องรอผลพิสูจน์จากสถาบันนิติเวชอีกครั้งจึงจะสรุปได้ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเป็นอุทาหรณ์ให้เจ้าของบังกะโลบนเกาะเสม็ดควรจะระมัดระวังและหาวิธีการป้องกัน หรือหาภาชนะใส่ยากันยุงหรือเทียน เพื่อป้องกันเพลิงไหม้

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบรรดานักท่องเที่ยวที่เห็นเหตุการณ์ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า ขณะเกิดเหตุไฟไหม้ไม่มีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด มาช่วยดับไฟ และไม่มีอุปกรณ์การช่วยเหลือป้องกันเหตุร้าย จึงต้องการให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบ และแก้ไขข้อบกพร่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายเช่นนี้ซ้ำรอยอีก