ยามเฒ่าวัย 70 สังหารตำรวจ

ร.ต.ท.ชาติชาย นาคปักษี ร้อยเวร สภ.อ.เมืองกระบี่ รับแจ้งมีเหตุคนถูกฆ่าที่ร้านกันตวรรณสปา ตั้งอยู่เลขที่ 29 ถนนมหาราช เขตเทศบาลเมืองกระบี่ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ

จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.ภูวดล วุฒกนก ผบก.ภ.จ.กระบี่ พ.ต.อ.บุญทวี โตรักษา ผกก. พ.ต.ท.สมเด็จ สุขการ รอง ผกก.(สส.) แพทย์เวร รพ.กระบี่ และกำลังตำรวจจำนวนหนึ่ง

ตรงพื้นบริเวณใกล้ซุ้มหน้าร้านพบร่างผู้ เสียชีวิตทราบต่อมาคือ ส.ต.อ.เอกลักษณ์ รัตน์ชู อายุ 35 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานสืบสวน บก.ภ.จ.กระบี่

ลักษณะนอนคว่ำ
นุ่งกางเกงยีนขายาวสีน้ำเงิน
ใส่เสื้อยืดสีเหลือง
สวมทับด้วยเสื้อแจ็กเกตสีแดง

สภาพศพ

ถูกฟันด้วยของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์ตั้งแต่แก้มซ้ายยาวไปถึงลำคอลึกถึงหลอดลม
ใกล้กันพบปืนขนาด 9 มม.
วิทยุสื่อสาร
มีดปลายแหลมเปื้อนเลือดยาวประมาณ 5 นิ้ว
และกระสุนปืน 9 มม. ตกอยู่ 1 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่ง รพ.กระบี่ ก่อนหน้าแล้ว 1 ราย ทราบชื่อนายจำรูญ จอนทอง อายุ 70 ปี บ้านเลขที่ 66/1 หมู่ 5 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เป็น รปภ.บริษัทดีเคเอสกรุ๊ป จำกัด

ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับร้านดังกล่าว มีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมบริเวณแขนซ้าย และทราบว่าเป็นมือมีดที่ลงมือฟัน ส.ต.อ.เอกลักษณ์เสียชีวิต ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี

ส.ต.อ.เอกลักษณ์นอกจากยึดอาชีพรับราชการเป็นตำรวจแล้ว ยังใช้เวลาว่างหาลำไพ่ พิเศษด้วยการเป็นสายตรวจให้กับบริษัทดีเคเอส กรุ๊ป จำกัด

คอยทำหน้าที่ตรวจ รปภ.ที่ได้รับการว่าจ้างให้ไปรักษาความปลอดภัยตามห้างร้านต่างๆ ในตัวเมืองกระบี่

ผู้ตายคงเดินทางไปตรวจที่ร้านดังกล่าว พบนายจำรูญนั่งหลับอยู่ที่ซุ้มจึงต่อว่า ทำ
ให้นายจำรูญเกิดความไม่พอใจมีปากเสียงทะเลาะกันขึ้น

นายจำรูญฉวยโอกาสที่ ส.ต.อ. เอกลักษณ์เผลอไม่ทันระวังตัว ชักมีดปลายแหลมออกมาฟัน ส.ต.อ.เอกลักษณ์จนหลอดลมขาด

พยายามแย่งมีด ทำให้พลาดไปถูกนายจำรูญบาดเจ็บ ก่อนที่ ส.ต.อ.เอกลักษณ์จะวิ่งออกจากซุ้มและพยายามชักปืนออกมายิงต่อสู้ แต่ยังไม่ทันลั่นไกปืนปรากฎว่าขาดใจตายไปก่อน

ส.ต.อ.เอกลักษณ์ รัตน์ชู พื้นเพเป็นคน จ.สงขลา มารับราชการที่ จ.กระบี่ เกือบ 10 ปี และถือเป็นตำรวจที่ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี

ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์หลายคดี นอกจากนั้นก็เป็น 1 ในชุดเฉพาะกิจของตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่

ออกสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับคดีใหญ่ๆ หลายครั้ง ส่วนศพทางญาติจะนำไปตั้งสวดบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ที่ จ.สงขลา ในช่วงเย็นวันเดียวกัน

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ