แค้นโหด!! ลวงแฟนเก่ายิงทิ้ง ทุบน้องสาว-ยัดกล่องทิ้งพงหญ้า

นศ.สาวราชภัฏ พาน้องสาววัย 11 ขวบไปซื้อของย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ เจอหนุ่มปวส.แฟนเก่าเข้ามาทัก ทำทีบอกจะคืนเงินที่ยืมไป แต่ต้องไปด้วยกัน เหยื่อหลงเชื่อพากันซ้อนท้ายจยย.ไปที่บ้าน พอไปถึงก็หาเรื่องทะเลาะกันเดือด สุดท้ายถูกไอ้โหดลากเข้าห้องน้ำยิงทิ้งอุ้มศพหายไร้ร่องรอย น้องสาวเห็นเหตุการณ์เลยโดนทุบหัว-ยัดใส่กล่องทิ้งพงหญ้าข้างทาง ยังดีที่รอดมาขอให้ชาวบ้านช่วยได้ แม่เหยื่อเชื่อ ฝ่ายชายแค้นที่ถูกลูกสาวบอกเลิก

เมื่อเวลา 23.00 น.วานนี้ (15 ม.ค.) ร.ต.ท.โตมร ถนอมชาติ ร้อยเวร สน.โชคชัย รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลพระมุงกุฏเกล้าฯ ว่า มีพลเมืองดีช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 11 ปี ถูกทำร้ายและนำมาทิ้งไว้ภายในพงหญ้าหมู่บ้านเสนาวิเวศน์ 2 ซอย 213 ถนนเกษตร-นวมินทร์ ก่อนนำมาส่งที่โรงพยาบาล จึงรุดไปตรวจสอบ

ที่โรงพยาบาลดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อต่อมาคือ ด.ญ.นิสารัตน์ แวงวัน อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนรุจิเสรีวิทยา อยู่บ้านเลขที่ 156/71 ซอยพหลโยธิน 8 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. สภาพลำคอด้านหน้ามีบาดแผลเปิดกว้าง และมีอาการเจ็บที่บริเวณลำคอด้านหลัง แพทย์จึงนำตัวเข้าห้องเอ็กซ์เรย์ พร้อมทำแผลและใส่เฝือกอ่อนไว้

จากการสอบสวน ด้านนางนิภารัตน์ แวงวัน อายุ 45 ปี มารดาของ ด.ญ.นิสารัตน์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ด.ญ.นิสารัตน์ กับ น.ส.สุภาวดี แวงวัน อายุ 19 ปี ลูกสาวคนโตที่กำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 1 คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

และทำงานพิเศษเป็นพนักงานดูแลลูกค้าวีไอพี ที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม ได้มาขออนุญาตตนไปซื้อของที่ห้างเซ็นเตอร์วัน ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น.ก็ มีพลเมืองดีโทรศัพท์มาบอก จ.ส.อ.สมหมาย แวงวัน สามีของตนว่า ลูกสาวตนมากดกริ่งหน้าบ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ ด้วยสภาพร่างกายที่บาดเจ็บเนื่องจากถูกทุบศีรษะ ตนจึงรีบเดินทางไปหาลูกสาวทันที

นางนิภารัตน์ ให้การต่อว่า จากการสอบถาม ด.ญ.นิสารัตน์ บอกตนว่า ระหว่างที่ซื้อของอยู่นั้น ได้มีนายอาทิตย์ หรือเล่ หรือบี พรหมจันทร์ อายุ 20 ปี นักเรียนชั้น ปวส.ปี 1 โรงเรียนดุสิตพาณิชยการ อดีตแฟนหนุ่มที่เคยคบกันเข้ามาหา พร้อมพูดคุยกับลูกสาวคนโตของตนเรื่องเงินที่นายอาทิตย์ ได้ยืมไป 1,000 บาท โดยนายอาทิตย์ บอกว่าจะใช้เงินคืนให้ 2,000 บาท แต่ต้องไปเอาเงินด้วยกันที่บ้านภายในย่านซอยพหลโยธิน 30 ลูกสาวคนโตจึงหลงเชื่อพากันซ้อนจยย.ของนายอาทิตย์ไปที่บ้านหลังดังกล่าว

เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าว นายอาทิตย์กับลูกสาวคนโตก็เกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรง ก่อนที่นายอาทิตย์จะลากลูกสาวตนเข้าไปในห้องน้ำ จากนั้นลูกสาวคนเล็กของตน ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จากนั้นนายอาทิตย์ได้ออกมาจากห้องน้ำ โดยที่ลูกสาวคนเล็กสังเกตุเห็นว่ามีรอยเลือด แต่ไม่เห็นพี่สาว จากนั้นนายอาทิตย์ก็เดินตรงเข้ามาทำร้าย ด.ญ.นิสารัตน์ ด้วยการทุบที่ต้นคอจนสลบไป

ลูกสาวคนเล็กของตนมารู้สึกตัวอีกที ก็พบว่าถูกห่อด้วยผ้า และยัดอยู่ในกล่องอีกชั้นหนึ่ง จากนั้นก็ได้ยินเสียงผู้ชาย 2 คน คุยกันว่า "ให้ฝัง" แต่อีกคนพูดว่า "ดึกแล้ว 5 ทุ่มแล้ว" ก่อนที่ทั้งคู่จะโยนลูกสาวคนเล็กของตนทิ้งไปบริเวณพงหญ้า

หลังจากนั้น ลูกสาวคนเล็กก็รอจนเสียงเงียบแล้วพยายามดิ้นออกจากกล่อง เมื่อออกมาได้ก็เดินมาตามแสงไฟ และกดกริ่งขอความช่วยเหลือจากบ้านเลขที่ 61 ในหมู่บ้านเสนานิเวศน์ 2 พร้อมบอกเบอร์โทรศัพท์ของสามีตน ทางพลเมืองดีจึงโทรมาแจ้งให้ทราบ จากนั้นตนกับสามีจึงรีบมาดูลูกสาวแล้วพามาที่โรงพยาบาลทันที

นางนิภารัตน์ กล่าวอีกว่า สำหรับนายอาทิตย์นั้น เป็นแฟนเก่าของลูกสาวคนโต ที่เคยคบหากันมาประมาณ 1 ปีเศษ โดยคบกันตั้งแต่สมัยที่ลูกสาวยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมอยู่ที่โรงเรียนศรีอยุธยา แต่หลังจากลูกสาวตนเรียนจบ และเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

ก็เจอเพื่อนชายคนใหม่ ประกอบกับที่นายอาทิตย์ ทำตัวไม่ดี เกเร ลูกสาวจึงอยากเลิกคบ พร้อมได้บอกเลิกนายอาทิตย์ไปเมื่อ 3 เดือนก่อน ตนจึงเชื่อว่า นายอาทิตย์น่าแค้นที่ถูกลูกสาวบอกเลิก จึงก่อเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ที่ผ่านมานายอาทิตย์ เคยกักตัวลูกสาวตนไว้ที่บ้านย่านซอยพหลโยธิน 30 หลายครั้งจนตนและสามีเคยต้องไปตามกลับมาทุกครั้ง

ต่อมา จ.ส.อ.สมหมาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย ได้ประสาน ร.ต.อ.ณัฏฐ์ สะอาดเอี่ยม ร้อยเวร สน.พหลโยธิน เดินทางไปยังบ้านเพิงพักคนงานในซอยพหลโยธิน 30 แขวงจันทร์เกษม เขตจตุจักร กทม.ซึ่งเป็นบ้านของนายอาทิตย์ แต่เจ้าหน้าที่ไม่พบตัวนายอาทิตย์ พบเพียงนางชำเรียง พรหมจันทร์ อายุ 41 ปี มารดาของนายอาทิตย์ซึ่งทำชีพขายของเก่าเท่านั้น

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในห้องน้ำบ้านหลังดังกล่าว พบมีรอยเลือดเป็นลิ่มๆ เหมือนเพิ่งถูกชะล้างไป นอกจากนี้ยังพบปืนลูกซองไทยประดิษฐ์จำนวน 1 ประบอก ภายในมีลูกปืนบรรจุอยู่ซุกซ่อนอยู่ใต้ลูกฟูกที่นอน จึงประสานเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานมาทำการตรวจสอบ พร้อมเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนนางชำเรียง ให้การว่า ไม่รู้ว่าปืนกระบอกดังกล่าวเป็นของใคร และไม่รู้เห็นเหตุการณ์ใดๆ เนื่องจากตัวเองไม่อยู่บ้านทั้งวัน โดยตนไปบ้านเพื่อนซึ่งอยู่ในชุมชนห่างออกไปเล็กน้อยตั้งแต่ 08.00 น.และเพิ่งกลับมาเข้ามาประมาณ 01.00 น.พอกลับมาก็ได้เข้าห้องน้ำแล้ว แต่ไม่ได้สังเกตว่ามีรอยเลือด

ส่วนคนอื่นในบ้านของตนก็มีสามีที่ไปขี่ซาเล้งรับซื้อของเก่ายังไม่กลับบ้าน ส่วนนายอาทิตย์ ลูกชายของตนนั้น ปกติแล้วจะเช่าห้องอยู่กับเพื่อนที่ย่านสะพานเหล็กไม่ได้กลับบ้าน ส่วนลูกคนอื่นๆ ไปเล่นเกมส์อยู่ร้านเกมส์

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า คนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะไม่ต่ำกว่า 2 คน ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังออกตรวจค้นในบริเวณที่ ด.ญ.นิสารัตน์ ถูกนำไปทิ้ง เนื่องจากคาดว่า เชื่อว่าคนร้ายน่าจะนำ น.ส.สุภาวดี ไปทิ้งใกล้กัน แต่ก็ยังไม่พบตัว น.ส.สุภาวดี แต่อย่างใด

ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จาก หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ