วันนี้ (4 ม.ค.) นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช
นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผวจ.เพชรบุรี พล.ต.ต.วิรัช วัชรขจร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และคณะ เดินทางเข้าพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการลักลอบฆ่าช้างป่า บ้านป่าเด็ง หมู่ 3 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยาน กว่า 40 นาย พร้อมชาวบ้านใกล้เคียงช่วยกันขุดหลุมเตรียมฝังซากช้างดังกล่าว
โดยในการฝังร่างช้าง มีพิธีไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิตามความเชื่อของชาวบ้านในพื้นที่มีพราหมณ์หมู่บ้านเป็นผู้ทำพิธี ก่อนจะนำช้างลงหลุมได้โปรยดอกไม้ ท่ามกลางบรรยากาศชาวบ้านในพื้นที่จำนวนมากและเจ้าหน้าที่รัฐเกือบทุกหน่วยดูการฝังร่างช้างด้วย
นายดำรงค์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในนี้ทราบว่ามีช้างตาย 2 ตัว คือ ตัวที่ถูกตัดหน้าผาก และที่ถูกเผา
ตนทราบข่าวและสงสัยมาตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 3 ม.ค.แล้วว่าการล่าช้าง เพื่อเอางา และตัดอวัยวะสืบพันธุ์ รวมถึงการตัดหน้าผากออก มีพิรุธ หน้าผากช้างไม่สามารถเอาไปตุ๋นยาจีนได้ สิ่งที่คนร้ายทำน่าจะทำเพื่อลบลอยกระสุนปืนมากกว่า ฉะนั้นปืนที่ยิงช้างตัวนี้ น่าจะเป็นปืนไรเฟิล หรือเหนือกว่าไรเฟิลก็ได้ อาจเป็นปืนพิเศษที่มีไม่กี่กระบอกในประเทศหรือในไทยยังไม่มีเลยก็ได้ จุดที่ 2 การเผาช้างทิ้ง คิดว่าน่าจะเผาเพื่อลบรอยกระสุนปืนเช่นกัน เพราะเตรียมการอย่างดี รถของคนร้ายน่าจะจอดไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุเนื่องจากเส้นทางสะดวกและสื่อสารไม่มีปัญหา
“การฆ่าช้างครั้งนี้เกิดมาผมเพิ่งเคยเห็น ฆ่าช้าง ตัดงวง ตัดอวัยวะสืบพันธุ์ ถือว่าโหดร้ายมาก เพราะปกติการฆ่าช้างที่ผ่านมาจะเป็นการฆ่าเอางาและเป็นการป้องกันพืชไร่ของเกษตรกรเท่านั้น เชื่อว่าการฆ่าครั้งนี้น่าจะมียอดสั่งมาจากต่างประเทศเพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นประเทศใดเท่านั้นเนื่องจากยังไม่สามารถจับผู้ต้องหาได้ นอกจากนั้นพื้นที่แถบป่าละอูและบริเวณที่ช้างถูกฆ่ายังติดถนนง่ายต่อการลงมือฆ่า และเชื่อว่าต้องทำเป็นขบวนการเหมือน แก๊งล่าเสือของชาวเวียตนามที่ลักลอบเข้ามาล่าในป่าทุ่งใหญ่ตะวันออกของไทย เบื้องต้นฝากถึงเจ้าหน้าที่ที่ดูแลด่านตรวจต้องเข้มงวดให้มากกว่านี้เพื่อป้องปรามเบื้องต้น จากนี้จะเรียกประชุมหน่วยที่เกี่ยวข้องให้จัดทำแผนเส้นทางเดินของช้างแต่ละพื้นที่ทั้งหมดทั่วประเทศ หาทางป้องกันการล่าช้างเชิงธุรกิจที่กำลังเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะจุดล่อแหลม อาทิ บริเวณที่ใกล้กับถนน " นายดำรงค์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีแนวทางหรือกำชับกับทางอุทยานอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ กล่าวว่า จนท.ทุกคนรักสัตว์หมด อาชีพของเขา ถ้าเขาคิดล่า ช้างไม่เหลือจนถึงบัดนี้หรอก เพราะพวกนี้ใจผูกพันตั้งแต่เล็ก ๆ ไม่มีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าคนไหนจะไปล่าสัตว์หรอก ถ้ามีก็ปิดไม่มิด
นายวินัย กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ถือว่ารุนแรง และเป็นครั้งแรกของจังหวัดเพชรบุรี
เพราะช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของเรา จะกำชับตำรวจ รวมถึงพนักงานท้องถิ่นและท้องที่ให้ความร่วมมือกับทางอุทนยานฯในการที่จะหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ ส่วนการป้องกัน คงต้องหามาตรการเพิ่มให้พี่น้องประชาชนอยู่ได้กับช้าง คือทางท้องถิ่นต้องเข้ามามีส่วนร่วมกับอุทยานฯในการป้องกันในเรื่องนี้
พล.ต.ต.วิรัช กล่าวว่า เบื้องต้นตำรวจจะได้ประสานข้อมูลไปที่สภ.สามร้อยยอดเพราะเคยจับคนร้ายได้และทราบว่าเป็นคนแถวนี้ด้วย แต่เบื้องต้นต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่าช้างตายเพราะอะไรกันแน่ และชิ้นส่วนต่างๆ ของช้างที่ถูกตัดออกนั้นช้างถูกฆ่าก่อนหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 05.00 น.วันเดียวกัน มีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 14 นายแบ่งเป็น 2 ชุด
กระจายกำลังออกค้นหาซากช้างที่มีการระบุว่าตายอีกหลายตัวตามจุดต่าง ๆ แต่ก็ไร้วี่แวว นอกจากนี้แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่าซากช้างที่ถูกนั่งยางเผานั้น ไม่ได้เกิดจากฝีมือคนร้ายเพราะตอนที่ช้างตายมีเจ้าหน้าที่ไปพบก่อนขณะนั้นซากช้างยังมีงาติดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงซุ่มดักรอคนร้ายกลับมาเอางาแต่รอหลายวันก็ไม่มาเจ้าหน้าที่จึงถอดงาออกและเป็นคนเผาซากช้างเอง เบื้องต้นสอบถามตำรวจก็ยังไม่ได้แจ้งความแต่อย่างใด.