รวบผัวขี้หึงใช้น้ำมันราดแม่ยายดับ

วันที่ 1 ม.ค. ที่สน.บางขุนเทียน พ.ต.อ.ชาญ แก้วท่าไม้ ผกก.สน.บางขุนเทียน นางปวีณา หงสกุล ประธานมุลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี

แถลงข่าวการจับกุมนายนรินทร์ หรือก้อย  แซ่กอ อายุ 32 ปี อาชีพพนักงานบริษัทอิเล็คทรอนิค ย่านคลองถม ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 54 ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ริมถนนราชพฤกษ์ แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ

 พ.ต.อ.ชาญ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงดึกของวันที่ 9 พ.ย. 54 นายนรินทร์ ผู้ต้องหาได้มีปากเสียงกับ น.สรดา อินทรักษา อายุ 32 ปี ภรรยา ขณะออกไปทานข้าวกันนอกบ้าน  จากนั้นทั้งคู่ได้ขึ้นรถแท็กซี่เพื่อกลับบ้านย่านเอกชัย 33 โดยผู้ต้องหาได้แวะซื้อน้ำมันเบนซินเพื่อไปเติมรถจักรยานยนต์ที่บ้าน แต่ขณะเดินทางได้ทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนถึงบ้าน จนนางสาย เพิ่มรุ่งเรือง อายุ 57 ปี  แม่ของน.ส.รดา ได้เข้ามาห้ามปราบ แต่ผู้ต้องหาไม่พอใจเอาน้ำมันเบนซินที่ซื้อมาราดใส่ตัวแม่ยายแล้วจุดไฟเผา จนเสียชีวิต แล้วหลบหนีไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พยายามแกะรอยติดตามคนร้าย กว่า 2 เดือน จึงสามารถจับกุมตัวมาได้โดยช่วงแรกคนร้ายได้หลบหนีลงใต้ไปอยู่ที่จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นได้ย้อนกลับเข้ามากรุงเทพเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. จนถูกจับ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนทำจริง เพราะเกิดจากความหึงหวงภรรยา

 น.ส.รดา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 54 ตนได้ไปงานเลี้ยงกับหัวหน้างานและเพื่อนๆ โดยได้บอกสามีไว้แล้ว จนกระทั่งงานเลิกประมาณ 3 ทุ่ม สามีได้เดินเข้ามาในร้าน พร้อมทั้งบอกให้ตนนั่งทานอาหารต่อจนร้านปิด ประมาณตี 5 จึงได้นั่งรถแท็กซี่กลับบ้านพร้อมกัน ระหว่างทางสามีตนได้ให้รถจอดแวะซื้อน้ำมันเบนซิน บอกว่าจะเอากลับไปเติมน้ำมันรถจักรยานยนต์ที่บ้าน แต่ระหว่างทางก็ได้แกล้งทำน้ำมันหกใส่ตัวตนอยู่ตลอดทาง จนมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงเพราะสามีเป็นคนหึงหวง พยายามจะชวนทะเลาะ พอมาถึงบ้านตนรีบวิ่งเข้าไปในบ้านและได้บอกเรื่องที่สามีแกล้งทำน้ำมันหกใส่ จนแม่ต้องเดินมาสอบถามที่บริเวณหน้าบ้าน

 น.ส.รดา กล่าวต่อว่า จากนั้นตนได้ยินเสียงแม่บอกว่า “อย่าๆ” และตามด้วยเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อออกมาดูก็พบว่าแม่ถูกไฟไหม้ท่วมตัวแล้ว จึงรีบเข้าไปช่วยดับไฟแล้วนำส่งรพ.ซึ่งตนก็ได้รับบาดเจ็บเพราะถูกไฟไหม้ตามแขนด้วย โดยสามีตนได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป ตนจึงรีบไปแจ้งความไว้ที่สน.บางขุนเทียน แต่เห็นผ่านมาหลายเดือนคดีไม่คืบเลยเข้าร้องทุกกับทางมูลนิธิปวีณา เพราะกลัวว่าถ้ายังจับสามีตนไม่ได้แล้วเขาจะย้อนกลับมาทำร้ายตนและคนในครอบครัวอีก