สืบเนื่องจาก คนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืน ไม่ทราบขนาด ยิงใส่รถยนต์ที่วิ่งอยู่บนสะพานข้ามแยกประชานุกูลต่อเนื่องไปถึงสะพานวงศ์สว่าง จนเป็นเหตุทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหายหลายคัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 23 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า วันนี้ (26 ธ.ค.) พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร. เรียก พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2
พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.บก.น. 1 พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.อ.เชิดชาย สัตตบุศย์ ผกก.สน.ประชาชื่น ฝ่ายสืบสวน สน.ประชาชื่นและผู้เกี่ยวข้อง ประชุมเร่งรัดติดตามคนร้ายโดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวว่า คดีนี้ทาง พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. มีความห่วงใยเลยได้กำชับให้ตนลงมาดูคดีนี้ เพราะผู้ก่อเหตุเป็นภัยต่อสังคมอย่างมาก ประทุษร้ายผู้ใช้รถใช้ถนน ทำร้ายคนโดยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้มีรถเสียหายทั้งหมด 4 คัน และยังได้รับข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่ายังมีรถอีก 2 คัน ที่โดนก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้ โดยเกิดในท้องที่ สน.สุทธิสาร บริเวณอุโมงค์แยกสุทธิสารและท้องที่ สน.ดุสิต ช่วงถนนพระราม 5 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายในท้องที่สน.ดุสิต
ผู้ช่วยผบ.ตร.กล่าวต่ออีกว่า หลังจากประชุมเราได้ข้อมูลจากพยานที่เป็นประโยชน์อย่างมาก และหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ไปสเก็ตซ์ภาพคนร้าย
จากพยานที่สอบปากคำไปแล้วและเห็นหน้าคนร้าย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยพยานและภาพสเก็ตซ์ได้ในขณะนี้ เบื้องต้นจากพฤติกรรมของคนร้ายเชื่อว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และเป็นคนร้ายคนเดียวกันทั้งหมดที่ก่อเหตุยิงรถทั้งหมด 6 คัน ซึ่งจากการตรวจสอบรถผู้เสียหายท้องที่ สน.สุทธิสาร พบว่าคนร้ายซึ่งนั่งข้างคนขับเป็นคนยิง ส่วนที่ สน.ดุสิต คนขับรถเป็นคนลงมือยิงเอง และจากการสอบปากคำผู้เสียหายท้องที่ สน.ดุสิต ทำให้ได้หลักฐานสำคัญ โดยขณะนี้เรามีภาพรถคันที่ก่อเหตุและทะเบียนแล้ว
พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนที่มีการระบุว่าเป็นแก๊งวัยรุ่นแถวจ.นครปฐม จากหลักฐานที่ได้ยังไม่โยงไปถึงจุดนั้น
ตอนนี้ต้องเร่งหาตัวคนร้ายก่อน เพราะถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ซึ่งดูจากวิถีกระสุนการยิงเป็นการตั้งใจยิงใส่ตัวบุคคลหวังผลให้ตาย ซึ่งเป็นข้อหาพยายามฆ่า สำหรับประเด็นในการก่อเหตุ ผู้เสียหายแต่ละคนที่ถูกไล่ยิงก็ไม่มีส่วนเชื่อมโยงกัน และไม่ได้ไปมีเรื่องกับใครมาก่อน คนร้ายน่าจะเป็นพวกจิตไม่ปกติ ก่อกวน แต่ไม่ใช่คนบ้า ทั้งนี้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุมคนร้ายรายนี้ได้อย่างแน่นอน
ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า วันนี้จะแจกภาพรถกระบะวีโก้ ของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้ ให้สื่อมวลชนช่วยเผยแพร่
เผื่อมีประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ หรือคนที่เห็นและคุ้นเคยกับรถคันดังกล่าวจะได้มาให้ข้อมูลกับตำรวจ เพราะรถคนร้ายมีลักษณะโหลดเตี้ย และแต่งเครื่องเสียง ชอบเปิดเพลงเสียงดังและชอบอวด ซึ่งรถลักษณะนี้จะเป็นจุดเด่น น่าจะมีประชาชนพบเห็นอยู่บ่อยๆ ซึ่งหากใครมีเบาะแสสามารถติดต่อกับตำรวจได้ทุกที่ตลอดเวลา และหลังจากนี้จะมีการตั้งด่านตรวจเข้มงวดมากขึ้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชน เพราะก่อนหน้านี้เป็นช่วงน้ำท่วม แต่พอน้ำลดตำรวจก็จะเข้มงวดอย่างจริงจัง
จากนั้น พล.ต.ท.จรัมพร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ร่วมกันตรวจสอบวิถีกระสุนรถฮอนด้า ซีวิค สีดำ ทะเบียน ฎจ-9700 กรุงเทพมหานคร รถเบนซ์ 400 เอสอีแอล สีเทา ทะเบียน ษง 8883-กรุงเทพมหานคร รถกระบะ ไฮลักซ์ไทเกอร์ สีน้ำเงิน ทะเบียน ถณ 8898-กรุงเทพมหานคร และรถกระบะอีซูซุ ดีแมค สีน้ำเงิน ทะเบียน ตท-6247 กรุงเทพมหานคร เพื่อดูวิถีกระสุนที่คนร้ายยิง และดูหัวกระสุนปืนที่ยังคาอยู่ในรถเบนซ์อีก 2 หัว กับเศษทองแดงหุ้มหัวกระสุนปืนขนาด 9 มม. อีก 1 ชิ้น ไปตรวจสอบ จากการตรวจสอบเบื้องต้น หัวกระสุนที่พบจากรถเบนซ์ตรงกับหัวกระสุนที่เก็บได้ในวันเกิดเหตุของรถฮอนด้า ซีวิค แต่ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเป็นกระสุนชนิดเดียวกันทั้งหมด 6 คันเลยหรือไม่
ต่อมาเวลา 12.00 น. พล.ต.ท.จรัมพร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผกก.สน.สุทธิสาร และฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร
เดินทางไปตรวจสอบตั้งแต่ทางลงอุโมงค์ข้ามแยกสุทธิสาร ถนนรัชดาภิเษก แขวง-เขตดินแดง ไปจนถึงทางขึ้นอุโมงค์ เพื่อหาปลอกกระสุนปืนของคนร้าย ว่าตรงกันกับที่ท้องที่ สน.ประชาชื่น และ สน.ดุสิต หรือไม่ แต่จากการตรวจสอบยังไม่พบปลอกกระสุนของคนร้าย จึงต้องรอผลตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานอีกครั้งว่า กระสุนปืนและเศษทองแดงหุ้มหัวกระสุนที่เก็บได้จากรถผู้เสียหายทั้ง 6 คัน เป็นกระสุนชนิดเดียวกันหรือไม่