น.ร.สาวม.6 สู้โจรอาการดีขึ้น แพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจและพูดคุยปกติแล้ว เปิดใจนาทีฮึดสู้โจร
เพราะต้องดูแลแม่และตั้งใจสอบเข้ามช. แฉ 3 เดือนก่อนเคยถูกคนร้ายจี้ชิงทรัพย์มาแล้ว แต่ฮึดสู้แย่งปืนปลอมฟาดท้ายทอยคนร้ายเช่นกัน คาดเป็นคนร้ายรายเดียวกัน ผอ.โรงเรียนนัดหารืออธิการบดีมช. หวังหาช่องทางช่วยน.ร. สาว แย้มพร้อมให้โอกาส-ช่วยเหลือเป็นพิเศษ ขณะที่อธิการบดีแห่งประเทศไทยแนะม.เชียง ใหม่นำผลการเรียนเฉลี่ยสะสมพิจารณาประ กอบช่วยเหลือ
จากกรณีน.ส.ธาริณี อินทิยะ หรือน้องอิ๊ฟ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนลำปางกัลยาณี โดนนายโกมล คุณมี อายุ 34 ปี
คนร้ายใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ ขณะเดินทางกลับจากติวหนังสือ เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยนายโกมลใช้มีดจ้วงแทงน.ส.ธาริณีจนบาดเจ็บ แต่นักเรียนสาวเกิดฮึดสู้ คว้าหมวกกันน็อกขึ้นมาฟาดเข้าบริเวณศีรษะนายโกมลจนสลบคาที่ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไว้ได้ เหตุเกิดกลางเมืองลำปาง เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 ธ.ค. นายสุวรรณ กล่าวสุนทร รองผวจ.ลำปาง ในฐานะรรท.ผวจ.ลำปาง พร้อมด้วยนางจุรีย์ สร้อยเพชร ผอ.โรงเรียนลำปางกัลยาณี และคณะครูอาจารย์ เข้าเยี่ยมน.ส.ธาริณี ที่ร.พ.ลำปาง ซึ่งล่าสุดทางแพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจและสามารถพูดคุยปกติแล้ว มีเพียงอาการเจ็บแผลถูกแทงที่ทรวงอกเท่านั้น โดยนายสุวรรณมอบเงินสดจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้น.ส.ธาริณีด้วย
นร.สาวม.6เปิดใจ นาทีสู้โจร มช.ถกรับเข้าเรียน
น.ส.ธาริณีกล่าวว่า ตอนที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ก็พยายามตั้งสติแล้วคิดหาทางเอาตัวรอด จึงตัดสินใจต่อสู้กับคนร้าย
แต่กลับถูกแทงซ้ำเข้า ไปอีก จนคิดว่าร่างกายตัวเองจะรับไม่ไหวแล้ว แต่ยังไงก็ต้องสู้ให้ได้ เพราะยังต้องดูแลแม่และเรียนหนังสือ จึงใช้แรงที่มีอยู่ทั้งหมดคว้าหมวกกันน็อกฟาดเข้าใส่คนร้ายเต็มแรงจนสลบ ประกอบกับในตอนนั้นมีเพื่อนบ้านใกล้เคียงที่เห็นเหตุการณ์ออกมาช่วยเหลือ จึงรอดชีวิตมาได้
น.ส.ธาริณีกล่าวอีกว่า เคยประสบเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน และเกิดเหตุในละแวกเดียวกัน
โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนเข้ามาจี้ เพื่อชิงทรัพย์ แต่สังเกตเห็นเป็นปืนปลอม จึงแย่งปืนกับคนร้ายและใช้ด้ามปืนฟาดไปที่ท้ายทอยคนร้ายเต็มแรง เมื่อคนร้ายสู้ไม่ได้จึงขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งตนมั่นใจว่าน่าจะเป็นคนร้ายคนเดียวกัน เพราะรูปพรรณสัณฐานและลักษณะการชิงทรัพย์เหมือนกันทุกประการ
เมื่อถามถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัย น.ส. ธาริณีกล่าวว่า เรียนสายศิลป์ภาษาอังกฤษ-จีน ที่โรงเรียนลำปางกัลยาณี
เพราะชอบพูดให้ได้หลายภาษา และใฝ่ฝันที่จะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเชียง ใหม่(มช.) โดยจะเลือกสอบเข้าคณะมนุษย ศาสตร์ 2 สาขาด้วยกันคือ สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม และสาขาภาษาอังกฤษ ซึ่งหาก ม.เชียงใหม่เปิดโอกาสให้ได้สอบก็รู้สึกดีใจมาก
ด้านนางจุรีย์กล่าวว่า หลังทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน.ส.ธาริณี โรงเรียนได้ประสานไป ยังม.เชียงใหม่ทันที
และมีโอกาสพูดคุยกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งได้รับคำแนะนำให้โรงเรียนทำหนังสือแจ้งไปยังมหา วิทยาลัย เพื่อขออนุเคราะห์เป็นกรณีพิเศษให้น.ส.ธาริณีสอบย้อนหลัง เนื่องจากเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ จึงมอบหมายให้นายเกษม กาเตจ๊ะ รองผอ.ฝ่ายวิชาการ พร้อมผู้ปกครองของน.ส. ธาริณี เดินทางไปพบกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันที่ 20 ธ.ค. เวลา 08.30 น. โดยโรงเรียนจะช่วยเหลือประสานงานให้เด็กนักเรียนอย่างเต็มที่ เนื่องจากน.ส.ธาริณีเป็นเด็กประพฤติดี มีความกล้าหาญและเป็นตัวอย่างให้กับเด็กนักเรียนคนอื่นในการมีสติต่อสู้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายโกมล คุณมี คนร้ายที่ก่อเหตุ พักรักษาตัวอยู่ร.พ.ลำปางเช่นเดียวกัน
โดยถูกใส่กุญแจมือไว้กับเตียงคนไข้ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองลำปางเฝ้าตลอด 24 ช.ม. ซึ่งผู้ต้องหาก็เกิดความอับอายและเอาผ้าห่มคลุมหน้าตัวเองไว้ตลอดเวลา เมื่อเข้าไปพูดคุยนายโกมลรับสารภาพว่า สาเหตุที่ก่อเหตุชิงทรัพย์น.ส.ธาริณี เพราะติดหนี้ค่าหวยใต้ดินอยู่ 5,800 บาท ตอนแรกใช้อาวุธปืนจี้ก่อน แต่ น.ส.ธาริณีต่อสู้และยึดเอากุญแจรถไป ทำให้ไม่สามารถหลบหนีได้ จึงเกิดความโมโห และใช้มีดพกสั้นที่นำมาแทงจนบาดเจ็บ ส่วนที่น.ส. ธาริณีระบุว่าเคยถูกคนร้ายก่อนเหตุชิงทรัพย์เมื่อ 3 เดือน ยืนยันว่าไม่ใช่ตนที่ก่อเหตุ
วันเดียวกัน นายพงษ์ศักดิ์ อังกสิทธิ์ อธิการ บดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า
โรงเรียนลำปางกัลยาณีนัดหมายนำข้อมูลมาให้กับตนในวันที่ 20 ธ.ค. โดยมีผู้ปกครองของน.ส.ธาริณี มาด้วย ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบว่าน.ส.ธาริณีจะสมัครเรียนคณะอะไรบ้าง แต่ม.เชียงใหม่จะให้โอกาสและช่วยเหลือดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งคงต้องพูดคุยกันระหว่างคณะกรรมการคัดเลือกและนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณบดี
ด้านนายประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี(มทส.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.)
กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่าการที่สอบคัดเลือกไปแล้วและจะให้นักเรียนมาสอบใหม่คงไม่สามารถทำได้ เพราะข้อสอบถูกเปิดเผยไปแล้ว แต่การคัดเลือกนักศึกษาเป็นอำนาจของมหา วิทยาลัยจะพิจารณาจากผลการเรียนเฉลี่ยสะสม ซึ่งหากคะแนนสะสมดีก็อาจนำมาพิจารณาประกอบได้ โดยเราก็รู้สึกเห็นใจน.ส.ธาริณี แต่เชื่อว่าหน่วยงานที่มีหน้าที่ตัดสินเรื่องนี้โดยตรงจะเข้ามาช่วยเหลือเต็มที่แน่นอน
น.พ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) กล่าวว่า ขั้นต้นเป็นอำนาจของมหาวิทยาลัยที่ต้องดูแล
ถ้าเป็นเหตุสุดวิสัยอย่างนี้อำนาจอยู่ที่มหาวิทยาลัยว่าจะช่วยเหลือมากน้อยแค่ไหน เช่น ให้กลับมาสอบใหม่หรือให้คะแนนพิเศษ เป็นต้น แต่ต้องไปดูความจำเป็น ส่วนผู้ปกครองของเด็กคนอื่นที่มีส่วนได้เสีย กรณีนี้อาจเป็นโควตาพิเศษ สอบไม่ได้ก็ปิดโควตา ไม่ไปทับสิทธิ์คนที่สอบไปแล้ว แต่ต้องนำมาพิจาณาประกอบกับเรื่องความรู้ความสามารถของเด็กด้วย