สาวลำปางใจเด็ดฟัดสู้โจรจี้ชิงสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ใช้หมวกกันน็อกฟาดหน้าคนร้าย สลบหมอบคาพื้น
เหตุเกิดขณะวัยรุ่นสาววัย 17 ปีขี่รถจยย.กลับจากติวสอบเข้ามหาวิทยาลัย คนร้ายขี่รถประกบกระชากสร้อยคอ เหยื่อสาวเสียดายสร้อยถอดหมวกกันน็อกฟาดใส่คนร้ายจนปืนปลอมหล่น แต่คนร้ายชักมีดแทงหลายแผล สาวใจเด็ดฮึดสู้คว้าหมวกใบเดิมฟาดใส่หน้าคนร้ายจนสลบ ตร.อายัดตัวดำเนินคดีทันที
เมื่อเวลา 03.20 น. วันที่ 18 ธ.ค. ร.ต.ท.ไกรศร ชัยอินทร์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลำปาง
ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์เด็กสาววัยรุ่น เหตุเกิดภายในซอยพิบูรณ์ราช หมู่ที่ 2 บ้านสามัคคี ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง ขณะเกิดเหตุเด็กสาวได้รับบาดเจ็บตามร่างกายหลายแห่ง ส่วนคนร้ายถูกหมวกกันน็อกฟาดจนสลบเหมือดคาที่เช่นกัน หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ร.พ.ลำปาง พร้อมด้วยพ.ต.ต.มนัสชัย อินทร์เถื่อน สว.สส.สภ. เมืองลำปาง และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจำนวนหนึ่งรุดไปที่เกิดเหตุ
เมื่อไปที่เกิดเหตุพบร่างหญิงสาววัยรุ่นได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงตามร่างกายหลายแห่ง
เจ้าหน้าที่กู้ชีพจึงเร่งปฐมพยาบาลและรีบนำตัวส่งร.พ.ลำปาง เป็นการด่วน ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ภาวิณี อินทิยะ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ 10 ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง เป็นนักเรียนชั้นม.6 โรงเรียนชื่อดัง จ.ลำปาง ห่างออกไปเล็กน้อยพบร่างคนร้ายนอนสลบไม่ได้สติอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีดำ-แดง ทะเบียน ขมต-272 ลำปาง ที่ป้ายทะเบียนรถมีเสื้อห่อพันปิดบังอำพรางหมายเลขทะเบียนไว้ และพบปืนปลอมของเด็กเล่นกระบอกหนึ่ง และมีดพกปลายแหลมเปื้อนเลือดยาว 2 นิ้วตกอยู่ข้างหมวกกันน็อกสีดำแบบเต็มใบ สภาพคนร้ายสะบักสะบอม ตรวจสอบเบื้องต้นพบฟันหน้าหักหายไป 2 ซี่ เลือดกบปาก ทราบต่อมาชื่อนายโกมล คุณมี อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ถนนตัดใหม่ ต.สบตุ๋ย อ.เมืองลำปาง จากการตรวจค้นในกระเป๋ากางเกงพบสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น ทราบว่าเป็นของน.ส.ภาวิณี ผู้เสียหายที่ถูกชิงเอาไป เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นให้หน่วยกู้ชีพ ร.พ.ลำปาง และอปพร.นำตัวคนร้ายส่งโรงพยาบาล
จากการสอบสวนน.ส.ภาวิณี เบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุออกไปติวหนังสือที่บ้านเพื่อน เนื่องจากในวันรุ่งขึ้นจะต้องไปสอบเอ็นทรานซ์เพื่อเข้ามหาวิทยาลัย
หลังจากติวเสร็จก็ได้ขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านหวังจะกลับไปนอนพักเอาแรงก่อนเดินทางไปสอบ แต่ขณะเลี้ยวรถเข้าซอยห่างจากบ้านเพียง 500 เมตรก็จะถึงบ้านแล้วได้มีคนร้ายขับรถจักรยานยนต์เข้ามาประกบด้านข้าง จากนั้นชักอาวุธปืนออกมาจี้บังคับให้จอดรถ พอรถจอดสนิทคนร้ายก็ใช้มือกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทที่สวมคออยู่ และเตรียมที่จะขับรถหลบหนี ด้วยความเสียดายของจึงถอดหมวกกันน็อกที่สวมอยู่ฟาดไปที่มือคนร้ายจนปืนตกกับพื้นถนน คนร้ายจึงลงจากรถเดินตรงเข้ามาทำร้ายจนล้มลงและชักมีดพกออกมาแทงที่ท่อนแขน หน้าอก และลำคอตนเอง จึงฮึดสู้และคิดว่าหากไม่สู้อาจถูกแทงจนตายก็ได้ เลยคว้าหมวกกันน็อกที่ตกอยู่ข้างตัวฟาดเข้าไปที่ใบหน้าคนร้ายเต็มแรง ทำให้คนร้ายทรุดลงกองกับพื้นและสลบแน่นิ่งก่อนที่พลเมืองดีที่บ้านใกล้ที่เกิดเหตุจะเข้ามาช่วยเหลือดังกล่าว
จากการตรวจสอบอาการของคนร้ายทราบจากแพทย์ว่าคนร้ายยังมีอาการสะลึมสะลือ และความดันต่ำกว่าปกติ จึงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ไปก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการอายัดตัวไว้เป็นผู้ต้องหาเพื่อสอบสวนแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป