เซลส์เหล็ก ตายปริศนา เซฟตี้เบลต์ รัดคอคาเก๋ง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 ม.ค


พ.ต.ท.สุรวุฒิ บุญเกิด พงส. (สบ.3) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งจากนางกิมฟ้า ประเสริฐเจริญศรี อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/32 ซอยวิ่งวัว ถนน กัลปพฤกษ์ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. ว่า ทะเบียน ษข 9240 กรุงเทพมหานคร

จอดอยู่ริมถนนก่อนถึงสะพานกลับรถ ตรงข้ามกับวัดนางชี ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง จึงรายงาน พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.บก.น.9 พ.ต.อ.พีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผกก.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ท.ศุภัทร ศุภกำเนิด สว.สส. แพทย์จาก รพ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่ พฐ.ร่วมเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ


เจ้าหน้าที่พบรถคันดังกล่าวจอดริมไหล่ทาง สภาพฝุ่นจับทั้งคัน ประตูทั้ง 4 บานถูกปิดล็อก โดยมีม่านบังแดดของประตูรถด้านหลังถูกดึงขึ้นปกปิดไม่ให้คนภายนอกมองเห็นสภาพภายในรถ ขณะที่บริเวณโดยรอบตัวรถมีกลิ่นเหม็นเน่าโชยคลุ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดต่อช่างกุญแจนำเครื่องมือมาเปิดรถ

ทันทีที่ประตูถูกเปิดออกทุกคนถึงกับผงะ !!

เมื่อพบศพชายตัวบวมขึ้นอืดนอนคว่ำหน้า อยู่บนเบาะหลัง สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเทาลายดอกน้ำตาล กางเกงขายาวสีดำ แต่ไม่ใส่รองเท้า หันศีรษะไปทางประตู หลังด้านขวาฝั่งคนขับ โดยมีเสื้อสูทสีดำแขวนอยู่ที่มือจับบริเวณหลังคารถ 1 ตัว ส่วนปลายเท้าหันมาทางประตูหลังด้านซ้าย

สภาพศพบริเวณลำคอถูกพันธนาการด้วยสายเข็มขัดนิรภัย ด้วยการดึงสายเข็มขัดจากเบาะหลังด้านขวาไปคล้องไว้กับพนักพิงของเบาะคนขับ แล้ววนกลับมาคล้องไว้กับคอศพ ก่อนจะขันชะเนาะด้วยเหล็กถอดล้อรถรูปตัวแอลอย่างแน่นหนา


ตรวจสอบในตัวพบกระเป๋าเงิน


มีหลักฐานเป็นบัตรประจำตัวประชาชน และในขับขี่ระบุชื่อ นายกิตติ คุปตะนุรักษ์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/423 หมู่บ้านอินทรา แขวงและเขตบางแค กทม. ภายในมีเงินสด 250 บาท ข้อมือซ้ายสวมนาฬิกาสีทอง ยี่ห้อไซโก้ ชนิดออโตเมติก แต่หยุดเดินมาตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา

เมื่อเวลา 6 โมงเย็น แพทย์ระบุเหยื่อเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน เจ้าหน้าที่ พฐ.จึงเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดไว้ตรวจสอบ รวมทั้งการตรวจเก็บลายพิมพ์นิ้วมือแฝงรอบตัวรถ และที่สายเข็มขัดนิรภัยว่า มีของบุคคลอื่นด้วยหรือไม่


นางกิมฟ้า ประเสริฐเจริญศรีซึ่งเป็นผู้พบศพให้การว่า


ตนเป็นเจ้าของร้านอาหารตามสั่งบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ เห็นรถคันดังกล่าวจอดอยู่ในที่เกิดเหตุตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคิดว่าเป็นลูกค้าที่มาสั่งอาหารกินตามปกติ กระทั่งผ่านมาหลายวันและได้กลิ่นเหม็นเน่า จึงชวนสามีเดินมาดู พบว่าภายในรถมีคนนอนตายจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ


ต่อมา น.ส.สุจินดา คุปตะนุรักษ์ อายุ 27 ปี เดินทางมาที่เกิดเหตุ


ทันทีที่เห็นสภาพศพถึงกับร้องไห้โฮดังลั่น ก่อนจะสงบสติอารมณ์ลงได้ และให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้ตายคือพ่อของตน ทำงานเป็นเซลส์แมนขายเหล็กอยู่ที่บริษัท ไวท์เมท จำกัด ย่านบางบอน มีรายได้เดือนละ 60,000 บาท

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ตายกลับเข้าบ้านซื้อข้าวของเครื่องใช้ติดไม้ติดมือมาจำนวนมาก

โดยบอกว่าเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ได้เบิกเงินจากบริษัทมา 35,000 บาท แต่ไม่ได้แบ่งไว้ให้ครอบครัวใช้สอยบ้าง กระทั่งมีปากเสียงกับภรรยาและผลุนผลันออกจากบ้านไป


ขณะที่เพื่อนร่วมงานกับผู้ตายคนหนึ่งซึ่งเดินทางมาดูศพให้การกับตำรวจว่า เมื่อบ่าย 2 โมงครึ่ง วันที่ 3 ม.ค.โทรศัพท์ติดต่อคุยกับผู้ตายตามปกติ ไม่มีสาเหตุอะไรที่จะบ่งบอกว่าผู้ตายเครียดหรือไม่สบายใจ เพราะผู้ตายไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครเลย กระทั่งมาพบเป็นศพดังกล่าว


ด้าน พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.บก.น.9 เปิดเผยว่า


สภาพศพไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย ไม่มีการรื้อค้นภายในรถ เชื่อว่าสาเหตุการตายน่าจะมาจากการฆ่าตัวตาย หรือการฆ่าชิงทรัพย์ เพราะผู้ตายเบิกเงินมาไว้กับตัวจำนวนมาก และเวลาที่ดื่มสุราจนเมาผู้ตายมักชอบจอดรถนอนข้างทาง อาจจะโดนแก๊งวัยรุ่น จยย.ที่ผ่านไปมาฉวยโอกาสฆ่าชิงทรัพย์ เบื้องต้นตำรวจได้มอบศพให้นิติเวช รพ.ศิริราช ตรวจพิสูจน์สาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์